• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Ailie662

#3401



นิสสัน เปิดตัว อัลเมร่า สปอร์ตเทค ตกแต่งพิเศษด้วยฝีมืของ ออเทค เจแปน (Autech Japan) บริษัทในเครือ นิสสัน มอเตอร์ ที่ฝากผลงานตกแต่งกันรถหลายๆ รุ่น

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เสริมตลาดอีโค คาร์ เปิดตัว อัลเมร่า สปอร์ตเทค ที่ตกแต่งพิเศษเติมความสปอร์ต พรีเมียม แบบญี่ปุ่นทั้งภายในและภายนอก ด้วยผลงานของ ออเทค เจแปน  (Autech Japan, Inc) สำหรับลูกค้าที่ชอบความเรียบหรู ซึ่งนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค จะใช้วัสดุตกแต่งที่

ออเทค เจแปน เป็นบริษัทในเครือ นิสสัน มอเตอร์ ญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงด้านงานออกแบบสไตล์สปอร์ตพรีเมียม และทำงานร่วมกับฐานการผลิตนิสสันในประเทศต่างๆ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละตลาด ทำให้ได้รถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

โดยการตกแต่งพิเศษให้กับ อัลเมร่า สปอร์ตเทค ประกอบด้วย

กันชนหน้าและกันชนหลังใหม่ตกแต่งด้วยสีเงิน
กระจังหน้าแบบโครเมียมดำเงา
สปอยเลอร์หลังใหม่
ตราสัญลักษณ์ สปอร์ตเทค ที่ฝาท้าย
กระจกมองข้างสีเงินพร้อมไฟเลี้ยว
ล้ออัลลอยสีดำปัดเงาขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่ 

อิซาโอะ เซคิกุจิ ประธาน นิสสัน ประเทศไทย กล่าว นิสสันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อศึกษาความต้องการของลูกค้า ด้วยรถยนต์ที่มีอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ วัสดุที่มีคุณภาพ ที่เหมาะกับการใช้งานทุกวัน

สำหรับนิสสัน อัลเมร่า สปอร์ตเทค  ราคาเริ่มต้นที่ 629,000 บาท

และนอกจาก อัลเมร่า สปอร์เทค ใหม่แล้ว ออเทคยังนำเสนอผลงานการออกแบบ และตกแต่ง รถยนต์รุ่นพิเศษต่าง ๆ ของนิสสัน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งเพื่อเพิ่มอารมณ์สปอร์ต หรือการดัดแปลงเพื่อการใช้งานเฉพาะในรูปแบบต่างๆ ต่างๆ เช่น รถที่ผู้ใช้ วีลแชร์สามารถเข้าออกได้ง่าย เป็นต้น

โดยตัวอย่างผลงานเด่นๆ จาก ออเทค  ในญี่ปุ่น ได้แก่  

นิสสัน ลีฟ ออเทค

นิสสัน เซเรน่า ออเทค 

นิสสัน มาร์ช โบเลโร่

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951728
#3402



นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า อคส.เตรียมวางจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนส.ค.นี้ โดยอคส.ได้ซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิลพบุรีฤดูกาลผลิตปี 63/64 จากวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวชุมชนบ้านคลอง ต.มหาโพธิ์ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จำนวน 40 ตันมาบรรจุเป็นข้าวสารบรรจุถุงแบรนด์ "อคส." หรือ "PWO" ขนาด 2 กิโลกรัม (กก.) วางจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้กับองค์กร และเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกร 

"ข้าวหอมมะลิลพบุรี มาจากแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิกลุ่มเดียวกับแปลงสาธิต ที่ได้กระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ไปทั่วประเทศ และเป็นข้าวที่อคส.เสาะหาจนพบแหล่งเพาะปลูก ที่ปลูกด้วยนาดินขาว ทำให้ได้ข้าวหอมมะลิ ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น เมล็ดเรียวยาว เหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมโดยธรรมชาติ หากเป็นข้าวต้นฤดู จะมียางมาก ทำให้ข้าวเหนียวนุ่ม และมีความอร่อยเหมือนข้าวหอมมะลิภาคอีสาน" 


สำหรับช่องทางการตลาด จะเริ่มต้นวางขายที่ร้านค้าของอคส.ภายในกระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี ก่อน และจะขยายไปยังช่องทางอื่นๆ ล่าสุดอยู่ระหว่างการเจรจากับห้างสรรพสินค้า และห้างค้าปลีกหลายแห่ง เช่น เดอะมอลล์, เทสโกโลตัส, และซีเจ คาดว่า จะวางขายได้เร็วๆ นี้ ส่วนราคาขาย เบื้องต้นจะขายราคาโปรโมชัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 

นอกจากนี้ อคส. ยังใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมการสื่อสารโดยใช้ QR Code เพียงผู้บริโภคสแกน QR Code  ที่ถุง ก็จะทราบเรื่องราวที่มาของข้าว ถือเป็น "ข้าวพูดได้" ถุงแรกของไทย และในระยะต่อไป จะพัฒนาให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของข้าวได้ ขณะเดียวกัน อคส. ยังจะประสานงานกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ดำเนินกระบวนการยื่นคำขอจดทะเบียนข้าวหอมมะลิลพบุรี เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ของไทยด้วย 

 นายเกรียงศักดิ์ กล่าวต่อว่า อคส.ยังมีแผนจะซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิภูเขาไฟบุรีรัมย์ มาบรรจุถุงและทำตลาดเช่นกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ข้าวถุงของอคส. รวมถึงประสานกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำข้าวที่เป็นสินค้าจีไอรายการอื่นๆ มาบรรจุถุงขายด้วยเช่นกัน และยังมีสินค้าอื่นๆ อีก เช่น พริกจากเพชรบูรณ์, ลำไยจันทบุรี  

ส่วนข้าวสารบรรจุถุงของอคส. ที่ทำตลาดอยู่แล้วในปัจจุบัน ทั้งข้าวขาว และข้าวหอมมะลิ ซึ่งเป็นข้าวพรีเมียม ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และวางขายในร้านธงฟ้าทั่วประเทศ และห้างค้าปลีกสมัยใหม่บางแห่งนั้น ขณะนี้ ยอดจำหน่ายลดลงบ้าง เพราะผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19  

"ตอนนี้ อคส.ต้องเร่งสร้างรายได้ให้กับองค์กร โดยการขายข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง  แต่ก็ยังน่าจะขาดทุนอยู่ ซึ่งปีนี้ ประมาณการขาดทุนไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท เพราะมีหนี้สงสัยจะสูญร่วม 200 ล้านบาท จากการขายสินค้าบางโครงการ ที่รักษาการผู้อำนวยการอคส.คนก่อนได้ดำเนินการไว้" 

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952125
#3403



เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกาศขยายเวลาการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย "PREMIERE DEAL" ออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่1-31 สิงหาคม 2564 สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HAVAL H6 Hybrid SUV หลังจากเริ่มใช้แคมเปญนี้มาตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

โดยแคมเปญดังกล่าวมีข้อเสนอต่างๆ ที่คิดเป็นมูลค่ารวมกันประมาณ 100,000 บาท ประกอบด้วย


ทั้งนี้การขยายแคมเปญ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ ที่ภาครัฐประกาศยกระดับความเข้มข้นมาตรการควบคุม โดยคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม

ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลทำให้ลูกค้าจำนวนมาไม่สะดวกในการเดินทางมาดูรถ ทดสอบรถ หรือทำธุรกรรมต่างๆ จึงตัดสินใจที่จะยืดแคมเปญดังกล่าวออกไปอีก 1 เดือน

ก่อนหน้านี้ เกรท วอลล์ ประกาศขยายระยะเวลาชำระเงินจองสำหรับลูกค้าในแคมเปญ  ULTRA DEAL ซึ่งเป็นแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่รลงทะเบียนจองสิทธิ์ซื้อ ที่จัดขึ้นมาก่อนการเปิดตัว และประกาศราคารถอย่างเป็นทางการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 200,000 บาท โดยกำหนดเวลาใหม่ให้ผู้ได้สิทธิ์ชำระเงินจองภายในวันที่ 15 สิงหาคม  และออกรถภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2564

สำหรับ  HAVAL H6 Hybrid SUV มีจำหน่าย 2 รุ่นย่อย ได้แก่

ULTRA ราคา 1,249,000 บาท
PROราคา1,149,000 บาท
ทั้ง 2 รุ่น ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ระบบเกียร์ DHT (Dedicated Hybrid Transmission)

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951960
#3404



เมื่อพูดถึงรถบรรทุก ความสนใจอาจไม่มากเท่ารถยนต์ขนาดเล็กทั่วไป จะเป็น รถเก๋ง ปิกอัพ หรือ เอสยูวี ก็ตาม เพราะเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้ว ตลาดรถบรรทุกมีความสำคัญอย่างมาก และหลายคนกำหนดให้เป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ

การที่หลายคนกำหนดให้เป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจ เพราะแน่นอนว่ารถบรรทุกคงไม่มีใครซื้อไปขับเล่น แต่ซื้อไปสำหรับประกอบอาชีพ ประกอบธุรกิจ ดังนั้นหากตลาดรถบรรทุกมีความเคลื่อนไหวที่ดี ก็แสดงว่า ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีทิศทางที่ดีด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นขนส่ง โลจิสติกส์ เกษตรกรรม หรือว่า ก่อสร้าง เป็นต้น

และสำหรับปีนี้ แม้ว่าตลาดจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แต่ปรากฏว่าช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา กลับอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มียอดจดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก 8,192 คัน เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 

จักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้อำนวยการ เอ็ม เอ เอ็น ทรัค แอนด์ บัส ประเทศไทย ผู้จำหน่ายรถบรรทุก เอ็ม เอ เอ็น กล่าวว่าตัวเลขจดทะเบียนดังกล่าวเป็นรถขนาด 7 ตัน ขึ้นไป หรือกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่สุดในไทย 

และสิ่งที่น่าสนใจอีกสิ่งหนึ่ง คือ เมื่อดูยอดขายรายเดือน ก็พบว่าเติบโตทุกเดือนเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เห็นภาพว่าตลาดมีทิศทางขาขึ้น 

อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น ก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าจะมีผลมากน้อยแค่ไหน แต่เบื้องต้นเมื่อประเมินตามสถานการณ์ อาจเห็นภาพตลาดรถบรรทุกเติบโตแบบชะลอตัว จนถึงเดือน ต.ค. จากนั้นจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง 


ทั้งนี้มองว่าตลาดรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่เติบโต เป็นเพราะหลายธุรกิจ อุตสาหกรรมขยายตัว รวมถึงภาคขนส่ง แม้ว่าจะมีบางกลุ่มที่สถานการณ์ไม่ดี แต่บางกลุ่มก็ยังเดินหน้าได้ดี

"ผู้ประกอบการขนส่ง-โลจิสติกส์ ก็ปรับตัวเช่นกัน ไม่ได้เสนอแค่เรื่องของการขนส่ง แต่นำเสนอแพคเกจบริการ ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดี ส่วนรายล็ก อาจจะได้รับผลระทบมากกว่า เพราะการแข่งขันรุนแรง ทำให้หลายคนนำเรื่องของราคามาใช้ ทำให้ได้รับผลกระทบมากขึ้น"

และการแข่งขันนำเสนอแพคเกจบริการให้กับลูกค้า มองว่าจะเป็นผลดีต่อตลาดรถยุโรป ซึ่งปัจจุบันยังมีขนาดเล็ก โดยช่วงครึ่งปีมียอดขาย 280 คัน เติบโต 10% ขณะที่ตลาดใหญ่ที่สุดคือรถญี่ปุ่น มียอดขาย 7,561 คัน เติบโต 26% ส่วนอีกตลาดหนึ่งที่เติบโตสูง คือ จีน 196% แต่ว่าขนาดตลาดยังไม่ใหญ่นัก 269 คัน

การที่มองว่าการแข่งขันของภาคขนส่ง-โลจิสติกส์ จะส่งผลดีกับรถยุโรป แม้จะมีราคาที่สูงกว่า แต่ก็เชืื่อว่าจะช่วยให้ภาพลักษณ์ของการดำเนินธุรกิจดีกว่า นำไปสู่การได้ลูกค้าเพิ่มขึ้น

ในส่วนของ เอ็ม เอ เอ็น ก็มีผลงานที่น่าพอใจ แม้ว่าจะเริ่มทำตลาดเองอย่างจริงจังได้ไม่นาน ช่วงเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว และเริ่มส่งมอบรถได้ช่วงเดือน ธ.ค. แต่ก็สามารถสร้างยอดขายได้ 58 คัน เพิ่มขึ้น 81% มีส่วนแบ่งการตลาด 21% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วทั้งปีที่ทำได้ 9% และมั่นใจว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะมียอดขายอย่างน้อย 100 คัน และส่วนแบ่งตลาด 14-15%

แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายของโควิด-19 แต่เอ็ม เอ เอ็น ก็มั่นใจว่าสามารถฝ่าไปได้ โดยกลยุทธ์ที่ใช้ นอกจากด้านตัวสินค้าที่เชื่อว่ามีคุณภาพ และราคาแข่งขันได้ แม้จะเป็นรถนำเข้า (CBU) จาก เยอรมนีแล้ว ก็คือ พันธมิตรทางการเงินที่หลากหลาย

"ผู้ซื้อรถบรรทุกทั้งหมดจะซื้อผ่านไฟแนนซ์ ซึ่งเราจะไม่บังคับ แต่มีพันธมิตรหลายรายให้ลูกค้าเลือก ทำให้สามารถเลือกข้อเสนอที่พึงพอใจที่สุดได้"

นอกจากนี้ก็ยังมีข้อเสนอด้านการบริการ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ครอบคลุม 24 เดือน ด้วยพันธมิตรที่มีครอบคลุมทั่วประเทศ

"หรือจะเป็นเรื่องการบำรุงรักษา แถมเซอร์วิส คอนแทคท์ 3 ปี หรือ 3 แสน กม. หรือ ออนไซต์ เซอร์วิส บริการบำรุงรักษารถลูกค้าถึงที่ แม้จะแค่คันเดียวก็ตาม ทั้งหมดนี้ทำให้ลูกค้าของเราพึงพอใจมาก"

ทางด้านเครือข่ายจำหน่าย ก็มีแผนจะเปิดเพิ่มหลังจากเปิดที่หาดใหญ่ไปไม่นาน โดยเล็งพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่นครราชสีมา และภาคเหนืออีก 1 แห่ง 

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/951933
#3405



นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผย ว่า ตามที่ ส.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ในนามสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เสนอให้รัฐบาลเยียวยาชาวสวนมังคุดที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ราคาตกต่ำในฤดูกาลผลิตปี 2564 ระหว่างการประชุมที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

 โดยมี นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และมีนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และตนร่วมประชุมพร้อมด้วยตัวแทนภาครัฐภาคเอกชนและภาคเกษตรกร เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น โดยตนได้ชี้แจงว่า คณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (ฟรุ้ทบอร์ด-Fruit Board) ยินดีรับข้อเสนอไปพิจารณา

ระหว่างนี้ได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมการเกษตร ฝ่ายเลขานุการของฟรุ้ทบอร์ด ศึกษาและรวบรวมข้อมูลตลอดจนมาตรการเยียวยาโดยให้ยึดแนวทางการเยียวยาชาวสวนลำไยฤดูกาลผลิตปี 2563 จากนั้นให้นำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ ในครั้งต่อไปโดยเร็ว และจะเสนอต่อ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

นอกจากนี้ นายอลงกรณ์ ยังกล่าวต่อไปว่า จากการที่ตนลงพื้นที่เพื่อติดตามเร่งรัดการแก้ไขปัญหามังคุดและผลไม้ภาคใต้ 3 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช) ตามข้อสั่งการของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ และดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้ 7 มาตรการเพิ่มเติมล่าสุดของฟรุ้ทบอร์ด ระหว่างวันที่ 28 - 29 ก.ค. ที่ผ่านมา ร่วมกับนายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์โดยเฉพาะมังคุดมีราคาตกต่ำ พบว่าระบบการขนส่งผลไม้แบบบริการส่งถึงที่รวมทั้งระบบการค้าออนไลน์เกือบเป็นอัมพาตโดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราชซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้ามังคุดใหญ่ที่สุดของภาคใต้เพราะผู้ให้บริการรายใหญ่ เช่น บริษัทไปรษณีย์ไทย บริษัทเคอร์รี่ เป็นต้น ได้หยุดให้บริการโดยสิ้นเชิง

ดังนั้น ตนจึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยัง ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายพงษ์ทร วิเศษสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. และภายใน 24 ชั่วโมง บริษัทไปรษณีย์ไทยได้เปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษเร่งด่วนอีกครั้งพร้อมกัน 105 สาขาใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.เป็นต้นไป ทำให้ระบบการขนส่ง ระบบไปรษณีย์และการค้าออนไลน์กลับมาเปิดบริการอีกครั้งหนึ่ง

และวันนี้ได้ประสานกับบริษัทไปรษณีย์ไทยให้พร้อมนำส่งผู้รับปลายทางที่อยู่ในพื้นที่สีแดงทุกพื้นที่ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะเร่งกำชับไปรษณีย์ทุกสาขาให้ดำเนินการตามข้อเสนอและการจัดส่งอาจช้าไป 1 วัน เพราะต้องใช้สาขาปลายทางที่อยู่นอกพื้นที่สีแดงผลัดเวรกันส่งเนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานของสาขาในพื้นที่สีแดงติดโควิดโดยไปรษณีย์ไทยจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อช่วยชาวสวน

 

 ซึ่งตนได้ขอบคุณบริษัทไปรษณีย์ไทยและนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิตอลฯ ที่ให้ความร่วมมือ กับฟรุ้ทบอร์ดด้วยดีตลอดมา เพราะระบบขนส่งเป็นกลไกสำคัญในการค้าขายและระบายผลไม้ออกจากแหล่งผลิตทั้งการค้าแบบออฟไลน์และออนไลน์ นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทเคอรรี่ตกลงที่จะเปิดบริการอีกครั้งเช่นกัน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ ได้ติดตามประสานงานกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ อย่างใกล้ชิดด้วยความห่วงใยต่อเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19

 

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อไปว่า ฟรุ้ทบอร์ดได้คิกออฟโครงการ "เกษตรกรแฮปปี้" โดยรณรงค์ภายใต้กลยุทธ์เพิ่มการขายภายในประเทศทดแทนการส่งออกซึ่งเป็น 1 ใน 7 มาตรการใหม่ของฟรุ้ทบอร์ด ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา และขอความร่วมมือพี่น้องชาวไทยทุกคนรวมทั้งชาวต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทยช่วยกันสร้างรอยยิ้มให้กับเกษตรกรด้วยการซื้อผลไม้ไทย

 

"ช่วงนี้ต้องเร่งช่วยระบายมังคุดคละที่สดอร่อยพร้อมจำหน่ายสู่ผู้บริโภคภายในประเทศทั้งรูปแบบการขายออนไลน์และออฟไลน์ซึ่งมีปริมาณมากและราคายังไม่น่าพอใจ แม้แนวโน้มราคาเริ่มปรับตัวดีขึ้นจึงได้ออกแคมเปญ "เกษตรกรแฮปปี้" ในวันนี้ ส่วนการแก้ไขปัญหาอื่น ๆ รมว.พาณิชย์ และรมว.เกษตรฯ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และปัญหาการขาดแคลนแรงงาน"

 รวมทั้งการขอความร่วมมือผู้ประกอบการค้าผลไม้ (ล้ง) ทั้งค้าภายในและส่งออกให้ล้งมาซื้อมังคุดด้วยมาตรการที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องทำให้สถานการณ์เริ่มกระเตื้องขึ้น โดยล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รายงานว่ามีล้งเข้ามาซื้อขายมังคุดและผลไม้เพิ่มขึ้นจาก 40 กว่า ล้ง เป็น 146 ล้ง

 

นอกจากนี้สมาคมผู้ส่งออกทุเรียนมังคุดแจ้งว่าสามารถจองตู้คอนเทนเนอร์ที่จะส่งออกผลไม้ทางเรือได้แล้วตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.ซึ่งจะทำให้ลดการขนส่งทางรถไปประเทศจีนที่แออัดติดขัดที่ด่านโหยวอี้กวนและด่านโมฮ่านมีผลทำให้ตู้คอนเทนเนอร์หมุนกลับมาภาคใต้ไม่ทัน เชื่อว่าตู้คอนเทนเนอร์จะทยอยกลับมาขนมังคุดได้มากขึ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้าจะทำให้การซื้อขายเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อราคาที่จะขยับตัวสูงขึ้น" นายอลงกรณ์ กล่าว


ด้านนายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ปัญหาหลัก ๆ ที่พบ มาจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงมาตรการป้องกันและควบคุมเชื้อโรคของประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกมังคุดและผลไม้อื่น ๆ ของไทย ที่เกิดจากปัญหาการขนส่งล่าช้า การขาดแคลนตู้คอนเทรนเนอร์และตะกร้าใส่ผลไม้ รวมทั้งปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่ที่ทำได้ยาก การขาดแคลนแรงงาน และตะกร้ามีไม่พอ หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้เร็วขึ้น

 

ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีแนวทางมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยกระจายมังคุดในประเทศช่วงที่การส่งออกมีปัญหา ดังนี้ 1. เชื่อมโยงและกระจายมังคุดออกนอกแหล่งผลิต โดยสนับสนุนค่าบริหารจัดการแก่ศูนย์กระจายในจังหวัดแหล่งผลิต กก.ละ 3 บาท ซึ่งกรมการค้าภายในโอนเงินให้จังหวัดดำเนินการจำนวน 50,850,000 บาท ตามที่ฟรุ้ทบอร์ดอนุมัติเพื่อกระจายมังคุดจำนวน 16,950 ตัน ออกนอกแหล่งผลิตอย่างเร่งด่วน

 

สนับสนุนค่าขนส่งสำหรับผลไม้ที่ส่งผ่านไปรษณีย์ กรมการค้าภายในร่วมกับบริษัทไปรษณีย์ไทยสนับสนุนกล่องไปรษณีย์และสติกเกอร์ส่งฟรีผลไม้ทั่วประเทศส่งเสริมการขายผ่านออนไลน์แก่เกษตรกรรายย่อยจำนวน 20,000 กล่องกล่องละ 10 กก. เพื่อช่วยกระจายผลไม้ 2,000 ตัน และ 3. เชื่อมโยงผู้รับซื้อของกรมการค้าภายในให้ช่วยเร่งระบายมังคุดเกรดรองหรือตกเกรดออกจากแหล่งผลิตโดยเร่งด่วนกรณีเกิดปัญหาระบายมังคุดไม่ทันในบางพื้นที่
 

จากนั้น ที่ปรึกษารมว.เกษตรฯ ได้ร่วมเปิดบริการส่งมังคุด ณ สำนักงานไปรษณีย์ไทยสาขาพรหมคีรี ก่อนเยี่ยมชมการดำเนินงานของศูนย์รับซื้อมังคุดชนิดคละกก.ละ 20 บาท ที่อำเภอพรหมคีรีซึ่งเป็นโมเดลใหม่ภายใต้ความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการล้ง เกษตรกรในพื้นที่และศูนย์บลูเฮ้าส์ พรรคประชาธิปัตย์ในการนำล้งมาซื้อตรงจากเกษตรกรด้วยราคานำตลาด โดยจะให้ขยายโมเดลนี้ในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย ต่อมา ได้เยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนมังคุดแปลงใหญ่ และศูนย์กระจายสินค้าบริษัทไปรษณีย์ไทยอำเภอลานสกา สำหรับ จ.นครศรีธรรมราช มีพื้นที่ปลูกมังคุดทั้งหมด 96,159 ไร่ กระจายอยู่ใน 21 อำเภอ มีพื้นที่ที่ให้ผลผลิตแล้ว 90,016 ไร่ ปี 2564 นี้ คาดว่าจะให้ผลผลิตประมาณ 57,245 ตัน

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในวันที่ 28 ก.ค. นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ และนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ได้ลงพื้นที่ตลาดกระจายสินค้าเกษตร ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ติดตามสถานการณ์ผลไม้ในพื้นที่ และประชุมหารือกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา และการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมังคุด ตลอดจนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อนำผลผลิตออกสู่ตลาด จากนั้นลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผลไม้ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และร่วมหารือในการแก้ไขปัญหาการกระจายผลไม้ ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ และการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายผลผลิตโดยเฉพาะเงา พร้อมทั้งลงพื้นที่ตลาดสหกรณ์การเกษตร อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี

 

ทั้งนี้ จ.ชุมพร มีปริมาณผลผลิตรวม 51,587 ตัน ช่วงปลายเดือน ก.ค. 2564 จะปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดกว่า 26,985 ตัน จนถึง ปลายเดือน ส.ค. 2564 ปริมาณ 16,141 ตัน และราคาผลผลิตมังคุด ตลาดทั่วไป กก.ละ 8 – 10 บาท ราคา หน้าล้ง 33 บาท (รับซื้อเฉพาะลูกค้าประจำ) ตลาดประมูลจากกลุ่มผลิตมังคุดคุณภาพในพื้นที่จังหวัดชุมพร จำนวน 26 กลุ่ม เปิดประมูลผลผลิตมังคุด เพียง 11 กลุ่ม ในพื้นที่ อำเภอหลังสวน พะโต๊ะ ละแม ราคาผลผลิตมังคุดตลาดประมูล 12 - 33 บาท (เฉลี่ยทุกเบอร์ ราคา 16.77 บาท) ปริมาณผลผลิตที่คาดว่าจะมีปัญหา 30,735 ตัน สำหรับ จ.สุราษฎร์ธานี ทุเรียนมีปริมาณผลผลิต 46,957 ตัน เก็บเกี่ยวแล้วร้อยละ 50 ราคา กก.ละ 110 บาท มังคุดมีปริมาณผลผลิต 7,294 ตัน เก็บเกี่ยวแล้วร้อยละ 50 ราคากก.ละ 23 บาท เงาะมีปริมาณผลผลิต 38,936 ตัน เก็บเกี่ยวแล้วร้อยละ 32 ราคากก.ละ 25 บาท ลองกองมีปริมาณผลผลิต 4,842 ตัน เริ่มเก็บเกี่ยวไปเพียงร้อยละ 0.66 ราคากก.ละ 50 
บาท.

https:// www.bangkokbiznews.com/news/detail/952127
#3406
เซรั่มนะไม่ใช่โลชั่น  ถ้าเหมือนกันจะจ่ายแพงทำไม

มัลเบอร์รี่ บอดี้ ไบร์ท เซรั่ม "7 สารสกัดมหัศจรรย์ " เพื่อผิวอ่อนเยาว์
ที่สุดของการดีท็อกซ์ผิว เพื่อย้อนวัยผิวสวยสุขภาพดี

มัลเบอร์รี่ บอดี้ ไบรท์ เซรั่ม 

เซรั่มเข้มข้น ปรับผิวกายให้ดูขาวกระจ่างใส ดูมีชีวิตชีวาด้วยสารสกัดธรรมชาติ
- มัลเบอร์รี่ ป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว ให้ผิวคงความชุ่มชื้นดู อิ่มน้ำ 
- มะหาด ฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ปรับสีผิวให้กระจ่างใส
- โสม ชะลอความเสื่อมของเซลล์ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง
- นมเกาะฮอกไกโด โปรตีนเข้มข้มจากน้ำนมวัว ช่วยซ่อมเซลล์ผิวที่สึกหรอ ฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน 
- วิซฮาเซล ช่วยสร้างอีลาสติน และคอลลาเจนให้ผิวกระชับ
- น้ำผึ่งมานูก้า จากนิวซีแลนด์ ลดการระคายเคือง ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้านจากแสงแดด
- ชาขาว ดีท๊อกซืผิว ชะลอการเกิดริ้วรอย ให้ผิวอ่อนเยาว์ 

เนื้อเซรั่ม บางเบา ทาแล้วซึมไว ไม่ทิ้งความเหนียวเนอะหนะ ผิวดูชุ่มชื้น ดูนุ่มเด้ง เนื้อเซรั่มทาง่าย ไม่แสบผิว สามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ใช่เป็นประจำผิวดูกระส่างใสขึ้น

ปกติ 1 ขวด 890.-
วันนี้ 1 แถม 1 ในราคา890.-

ขึ้นทะเบียนเลขที่ 74-1-6400020331

สั่งซื้อ  : 093-555-1938
Line@ : @lvaesthetic
https://www.lv-aesthetic.co.th/product/705138
https://www.facebook.com/Aesthetic.LVClinic


LV Aesthetic Center
website : www.lv-aesthetic.co.th










#3407



นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยังคงเดินต่อ โดยจังหวัดภูเก็ตได้วิเคราะห์สถานการณ์เป็นรายวัน ล่าสุดได้ออกประกาศยกระดับการควบคุมมา 3 ฉบับ เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เพราะต้องการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคให้อยู่ พร้อมกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย โดยจะใช้มาตรการทางสาธารณสุขนำหน้าเพื่อ ควบคุมตัวเลขผู้ติดเชื้อให้อยู่ในกรอบที่กำหนด

"ภาพที่เราอยากเห็นตอนนี้คือ เราสามารถควบคุมโรคได้ ไปพร้อมฟื้นฟูกับเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต ต้องตอบคำถามว่าคนภูเก็ตได้อะไร ประเทศไทยส่วนรวมได้อะไร ซึ่งสิ่งที่เราไม่อยากเห็นกันตั้งแต่ตอนแรกและคิดกันมาตลอด คือ เราเปิดแล้วเราไม่ต้องการปิดเหมือนบางแห่ง จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรการขึ้นมาเป็นลำดับว่าสถานการณ์ตอนนี้จะต้องทำอะไรเพิ่มขึ้น อาจจะลดกิจกรรม อาจจะลดความเข้มก็ต้องทำ เพราะตอนนี้ต้องการเซฟภูเก็ต แซฟแซนด์บ็อกซ์ และเซฟประเทศไทย"

ทั้งนี้จากการรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่วันที่ 1-29 ก.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 12,599 คน มีผู้ติดเชื้อ 30 ราย ถือว่ามีสัดส่วนที่น้อยมาก และเป็นการติดเชื้อที่ติดมาก่อนถึง ซึ่งภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ยวันละ 200-300 คน เช่นเดียวกับสายการบินเพิ่มมากขึ้น และยอดจองห้องพักในช่วง 3 เดือนนี้มีเกือบ 3 แสนคืน ถือว่ากำลังเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนทิศทางต่อไปน่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

ส่วนสถานการณ์โควิดตั้งแต่เปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ขึ้นมา สัปดาห์แรกมีผู้ติดเชื้อ 25 ราย แยกเป็น ภายใน 16 ราย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 1 ราย และต่างจังหวัด 8 ราย สัปดาห์ที่ 2 พบติดเชื้อ 48 ราย สัปดาห์ที่ 3 พบติดเชื้อ 69 ราย และสัปดาห์ที่ 4 พบติดเชื้อ 185 ราย ซึ่งสัปดาห์สุดท้ายที่พบมากขึ้น คือมาจากการติดเชื้อภายใน 148 ราย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 6 ราย และต่างจังหวัด 19 ราย และรับคนกลับบ้านอีก 11 ราย ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าระบบสาธารณสุขของจังหวัดสามารถดูแลได้ โดยล่าลุดการเตรียมพร้อมเรื่องเตียงมีทั้งหมด 694 เตียง ใช้ไปแล้ว 249 เตียง คิดเป็นอัตราการครองเตียง 36%

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตามข้อกำหนดของการพิจารณายกระดับการควบคุมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จะมีเกณฑ์กำหนดไว้ คือ ระยะแรก ถ้าพบตัวเลขการติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์ จะต้องยกเลิกกิจกรรม งดการรวมกลุ่ม ระยะต่อไป หากพบว่ามีลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล การครองเตียงมากกว่า 80% จะยกระดับมาตรการต่อไป
#3408



เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส 3 บิ๊กสโมสรยุโรปยืนยันจะเดินหน้าจัดแข่งขันศึกฟุตบอลยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ต่อไปหลังศาลแห่งกรุงมาดริดระบุว่าไม่มีความผิด

สำหรับฟุตบอลยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ถูกก่อตั้งโดย 12 ทีมชั้นนำของยุโรปที่ต้องการให้มีลีกฟุตบอลใหม่เกิดขึ้น ทว่ากลับถูกกระแสต่อต้านอย่างหนัก ส่งผลให้ 9 จาก 12 ทีมประกอบด้วย เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, แอตเลติโก มาดริด, อาร์เซนอล, เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ถอนตัวออกไป

การถอนตัวที่เกิดขึ้นส่งผลให้โปรเจกต์นี้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเหลือเพียง 3 ทีมคือ เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส นอกจากนั้นสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ยังส่อลงโทษสถานหนักกับทั้ง 3 สโมสรดังกล่าว

ถึงกระนั้นทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ไม่ยอมแพ้ และได้ยื่นเรื่องไปที่ศาลในกรุงมาดริดเพื่อให้ปกป้องพวกเขาจากการลงโทษของ ยูฟ่า เนื่องจากมองว่าไม่เป็นธรรม

กระทั่งล่าสุด ศาลแห่งกรุงมาดริด ประกาศผลการตัดสินออกมาแล้วว่า ยูฟ่าไม่สามารถลงโทษทั้ง 3 สโมสรจากเรื่องดังกล่าวได้ และต้องยกเลิกบทลงโทษทั้งหมดที่ออกมา

หลังจากนั้น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลนา และยูเวนตุส ได้แถลงการณ์ร่วมกันโดยยืนยันว่าจะดำเนินแผนงานของฟุตบอลยูโรเปียน ซูเปอร์ ลีก ต่อไป "เรามีความยินดีที่ก้าวไปข้างหน้า เราจะไม่อยู่ภายใต้การคุกคามอย่างต่อเนื่องของ ยูฟ่า อีกต่อไป"
#3409



"ชัยวุฒิ" มอบหมาย บ.ไปรษณีย์ไทย ใช้จุดแข็งในศักยภาพด้านการขนส่ง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจรายย่อยและสินค้าเกษตรฝ่าวิกฤติโควิด-19 ควบคู่สนับสนุนระบบสาธารณสุข รับอาสาขนส่งฟรีอุปกรณ์การแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ และให้ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ใช้ศักยภาพด้านการขนส่งและเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในช่วงการระบาดโควิด-19 ช่วยเหลือประชาชน ผู้ประกอบการ เกษตรกร พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนระบบสาธารณสุข ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นอีกครั้ง

โดยในส่วนของการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะครอบคลุมทั้ง การออกโปรโมชันเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งให้กับผู้ประกอบการ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกรผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เว็บไซต์ Thailandpostmart.com ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมสินค้าเกษตรและวิสาหกิจชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าร่วมขายสินค้ากว่า 6,500 ราย มีสินค้ามากกว่า 17,000 รายการจากทั่วทุกภูมิภาค

ทั้งนี้ ปณท ได้ปรับลดอัตราค่าบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในพิกัดน้ำหนักตั้งแต่เกิน 2,000 กรัมขึ้นไป และให้การสนับสนุนการส่งผลผลิตของเกษตรกรในราคากล่องเหมาจ่าย ด้วยบริการ EMS พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการขายให้กับผู้ประกอบการและเกษตรกร เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยยังสามารถเดินหน้าต่อได้ในภาวะวิกฤติ

นอกจากนี้ ยังมีบริการ Pick up Service รับฝากพัสดุถึงบ้าน อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ผู้ใช้บริการไม่ต้องออกจากบ้าน ลดความเสี่ยงการสัมผัสเชื้อโควิด-19 โดยสามารถใช้บริการดังกล่าวได้ทางไลน์ออฟฟิเชียล @ThailandPost



"ผมยังได้มอบหมายให้ ปณท สนองนโยบายการดำเนินงานของรัฐบาลด้วยการสนับสนุนระบบสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด -19 ได้แก่ การช่วยขนส่งอุปกรณ์การแพทย์ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศโดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการส่ง การส่งยาและเวชภัณฑ์จากโรงพยาบาล ไปให้ผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยโควิด -19 สีเขียวในโครงการ Home Isolation-Community Isolation ให้ความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว เพื่อรอการนำส่งต่อไปรักษาที่สถานพยาบาลต่อไป" นายชัยวุฒิ กล่าว



ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด -19 โดยมีโครงการ "ส่งความห่วงใย ส่งให้ สู้ภัย COVID-19" ซึ่งได้รวบรวมอุปกรณ์การแพทย์จากคนไทย จัดส่งฟรีให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศแล้วกว่า 2.2 แสนกิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าการจัดส่งกว่า 8 ล้านบาท ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรขนส่งเตียงกระดาษไปให้โรงพยาบาลสนามต่างๆ ทั่วประเทศฟรีกว่า 2,300 เตียง จัดทำโครงการ "ไปรษณีย์ reBOX" โดยร่วมกับ บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) นำกล่อง/ซองกระดาษที่รวบรวมจากคนไทยน้ำหนักกว่า 23,500 กิโลกรัม มาแปรรูปเป็นเตียงกระดาษ อีกทั้งร่วมกับองค์การเภสัชกรรม เตรียมพร้อมเปลี่ยนกล่อง/ซองเป็นหน้ากากอนามัย บรรจุใน กล่องBOXบุญ ที่จะส่งมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น
#3410

  

แรงบันดาลใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคน หรือสร้างอนาคตให้ใครสักคน อาจมีที่มาหลากหลายแหล่ง หนังสือสักเล่ม เพลงสักเพลง หรือหนังสักเรื่อง เช่นเดียวกับแรงบันดาลใจที่ทำให้เด็กชายคนหนึ่งเติบโตมาเป็นศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ของโลก มาจากฉากเดียวในหนังดังเรื่องหนึ่ง

จอห์น เมเยอร์ ในวัย 8 ขวบ หลงใหลเสน่ห์ของกีตาร์จากการดู ไมเคิล เจ. ฟ็อกซ์ ในบท มาร์ตี แม็คฟลาย เล่นกีตาร์ในหนัง Back to the Future แต่กว่าจะได้จับกีตาร์จริงจังก็ตอนอายุ 13 ปี และไม่นานหลังจากนั้น เขาก็เริ่มฟังเพลงบลูส์จากศิลปินระดับตำนาน อย่าง บี.บี. คิง, บั๊ดดี กาย, อัลเบิร์ท คิง, โอทิส รัช, เฟร็ดดี คิง, ไลก์ทนิน' ฮ็อปกินส์ จนถึง สตีวี เรย์ วอห์น

เมเยอร์ เริ่มเรียนกีตาร์พื้นฐานจากเจ้าของร้านขายกีตาร์ในบริดจ์พอร์ท, คอนเนตทิคัต บ้านเกิด และเหมือนเด็กวัยรุ่นที่ดิ่งลึกกับดนตรี เขาตั้งวงเล่นดนตรีร็อกกับเพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยม ก่อนจะเข้าเรียนที่วิทยาลัยดนตรีเบิร์คลี แต่เพียง 2 ภาคเรียน เมเยอร์ ก็ตัดสินใจทิ้งการเรียนมุ่งหน้าสู่อาชีพดนตรีเต็มตัว

หลังจากตระเวนเล่นหาเลี้ยงชีวิตตามผับบาร์ เมเยอร์ ก็ได้ทำผลงานชุดแรกเป็นอีพี.ออกขายอิสระชื่อ Inside Wants Out ซึ่งเป็นที่มาของการได้เซ็นสัญญากับบริษัทเพลงยักษ์ใหญ่ โคลัมเบีย เรคคอร์ดส์ ในเวลาต่อมา

Room for Squares เป็นอัลบั้มแรก ออกในปี 2002 ไม่เพียงเป็นอัลบั้มขายดี ยังได้รับคำวิจารณ์เชิงบวก และทำให้ เมเยอร์ ได้รางวัล แกรมมี่ สาขานักร้องชายยอดเยี่ยมจากเพลง "Your Body Is a Wonderland"

Heavier Things อัลบั้มที่ 2 ออกในปีถัดมา แม้ยอดขายจะไม่เท่าอัลบั้มแรก แต่ผลลัพธ์ด้านอื่นเหนือกว่าทุกด้าน ติดอันดับ 1 บนตาราง บิลล์บอร์ด 200, คำวิจารณ์บวกจากสื่อยักษ์ใหญ่ทุกแห่ง และเพลง "Daughters" ได้รางวัลใหญ่สุดของ แกรมมี่ คือรางวัลเพลงแห่งปี

เมเยอร์ ไม่เพียงได้การยอมรับจากผู้ฟัง บรรดาศิลปินอาวุโสในทางบลูส์และแจ๊ซมากมายก็ให้ความชื่นชมเขา โดยเฉพาะในฐานะมือกีตาร์ฝีมือเยี่ยม ทำให้ เมเยอร์ ได้ร่วมเล่นกับศิลปินเหล่านั้นมากมาย ขณะเดียวกันเขาเองก็ขยายขอบเขตดนตรีของตนด้วยการร่วมงานกับศิลปินร่วมรุ่นต่างแนวทาง ทั้งป็อป, ร็อค, ฮิป-ฮอป ฯลฯ



ในปี 2005 เมเยอร์ ตั้งวง จอห์น เมเยอร์ ทริโอ เพื่อออกตระเวนทัวร์คอนเสิร์ต เป็นวงที่ฮือฮากันมากเพราะสมาชิกอีก 2 คนนั้น จัดเป็นสุดยอดนักดนตรีที่ฝากฝีมือไว้ในการบันทึกเสียงให้ศิลปินนับพันๆ นั่นคือ พิโน พาลลาดิโน มือเบส และ สตีฟ จอร์แดน มือกลอง ทั้งสามออกอัลบั้มแสดงสด Try! มาชุดหนึ่งก่อนแยกย้ายกัน

เมเยอร์ ยังคงทำงานต่อเนื่อง ออกอัลบั้ม, ออกทัวร์ และรับเชิญไปบันทึกเสียงหรือขึ้นคอนเสิร์ทจากเพื่อนศิลปินมากหน้าหลายตา อัลบั้มที่ตามติดมา Continuum (2006), Where the Light Is (2007) และ Battle Studies (2009) ยังรักษาระดับความสำเร็จทุกด้านไว้ได้อย่างน่าทึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่ศิลปินดนตรีจะรักษาความต่อเนื่องได้ขนาดนี้

หลังจากอัลบั้ม Born and Raised ออกในปี 2012 เมเยอร์ ก็ประสบปัญหาส่วนตัว ซึ่งมีผลทำให้ต้องยกเลิกการทัวร์ทั้งหมด แต่ระหว่างที่หยุด เขาก็ไม่ได้อยู่เฉย เพราะกลางปี 2013 เขาออกอัลบั้มใหม่ Paradise Valley ซึ่งพลิกแนวดนตรีไปเป็นโฟล์ค-ร็อคและคันทรี่-ร็อค จากนั้นก็ออกทัวร์เพื่อสนับสนุนอัลบั้มทั้งสองควบกัน ยาวไปจนถึงปี 2015

ปี 2016 ขณะที่เริ่มทำเพลงสำหรับอัลบั้มใหม่ เมเยอร์ ก็ไปรวมตัวกับอดีตสมาชิกวง เกรทฟูล เดด ตั้งวงขึ้นมาเพื่อออกแสดงคอนเสิร์ทในนาม เด๊ด แอนด์ คอมพานี ซึ่งมีเป็นระยะๆจากปี 2016-2018 ระหว่างช่วงเวลานี้ เมเยอร์ ก็ออกอัลบั้ม The Search for Everything (2017)

และกลางเดือนกรกฎาคม 2021 นี้ เมเยอร์ ออกอัลบั้มล่าสุด Sob Rock เป็นอัลบั้มจากสตูดิโอชุดที่ 8 ของเขา โดยพลิกแนวอีกครั้งไปเป็นซอฟท์-ร็อคแบบเวสต์โคสต์ที่นิยมกันในทศวรรษ 1970-1980

เมเยอร์ ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ เขาเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพและด้านจิตใจตั้งแต่วัยรุ่น แต่มีคนไม่น้อยพยายามวิเคราะห์ถึงปัจจัยแห่งความสำเร็จของเขา ถ้ามองภาพกว้างๆจะพบว่า เมเยอร์ มีคุณสมบัติครบเครื่องของการเป็นดารา รูปร่างหน้าตาหล่อเหลา, ทักษะทางดนตรีชั้นเลิศ และเสียงร้องที่ไพเราะ

แต่ถ้ามองลึกลงไป เพลงของ เมเยอร์ จับความรู้สึกของผู้ฟังได้ดี เขาไม่พยายามเขียนเพลงที่เข้าถึงยากเกินไป เป็นอารมณ์ที่มีอยู่ในคนทั่วไป และที่สำคัญ ผลงานทุกชิ้นของเขาไม่ถูกปล่อยผ่านออกมาสู่สาธารณะอย่างลวกๆ ผ่านกระบวนความคิดที่แน่นอนมาแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในแนวร็อคอเมริกัน, บลูส์ หรือคันทรี่-ร็อค และด้วยท่วงทำนองฟังไม่ยาก นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่เปิดกว้างกับการรับดนตรีแนวต่างๆ และพร้อมหาประสบการณ์จากการร่วมงานกับคนอื่นๆทุกครั้งที่พร้อม

ยิ่งกว่านั้น ใครที่ติดตามมาพอสมควรและช่างสังเกต จะพบว่า จอห์น เมเยอร์ ใช้สื่อเก่งมาก โดยที่ไม่เสียความเป็นตัวของตัวเอง

ดนตรี / ทิวา สาระจูฑะ https:// siamrath.co.th/n/266350
#3411


วันที่ 30 ก.ค.64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการโสมสวลี ชั้น 11 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมประชุมใช้ระบบ conference โดยมีนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เข้าร่วมด้วย ภายหลังจากการประชุม นายจุรินทร์ เผยว่า มีประเด็นสำคัญ 5 ประเด็น คือ

1. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบให้จ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุผู้มีรายได้น้อย ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท จำนวน 100 บาทและมีรายได้ 30,000 ถึงไม่เกิน 100,000 บาท เป็นจำนวน 50 บาท สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยที่ผ่านมาได้มีการค้างการจ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย เป็นเวลา 4 เดือนตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายน 2563 วันนี้ที่ประชุมมีมติให้จ่ายเงินย้อนหลังให้กับผู้สูงอายุที่ค้างจ่ายอยู่จำนวน 4,700,000 รายทั่วประเทศและมีมติเห็นชอบให้จ่ายเงินให้กับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปี 2564 โดยให้จ่ายเป็นเวลา 1 ปี รวม 6 งวด โดยจ่ายเดือนเว้นเดือน ซึ่งมีอยู่จำนวน 4,700,000 ราย

2. การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุซ้ำซ้อนซึ่งเป็นประเด็นก่อนหน้านี้ สำหรับผู้สูงอายุที่รับเงินไปแล้วจะทำอย่างไร ได้มีการถามไปยังกฤษฎีกาได้ตอบกลับมาแล้วว่าให้สามารถดำเนินการได้ ถ้าผู้สูงอายุท่านใดจ่ายเงินกลับคืนมาให้จ่ายกลับไปยังผู้สูงอายุโดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องจ่ายเงินคืนไปให้ผู้สูงอายุ สำหรับการดำเนินการกรณีเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในอนาคตได้มีการตั้งอนุกรรมการชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 1 เดือนตามที่กฤษฎีกาแนะนำมาเบื้องต้น จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่รับเบี้ยยังชีพซ้ำซ้อนมีอยู่ 15,000 ราย

3. ก่อนหน้านี้มีการจัดโครงการชำระหนี้ให้กับผู้สูงอายุที่เป็นหนี้กองทุนผู้สูงอายุและจะครบกำหนดวันที่ 30 กันยายน 2564 ที่ประชุมมีมติให้ต่ออายุพักชำระหนี้ผู้สูงอายุไปอีกหกเดือนจนถึงเดือนมีนาคมปี 2565

4. ที่ประชุมให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการผู้สูงอายุระยะยาวตั้งแต่ปี 2566-2580 ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

และ ประเด็นที่5 ที่ประชุมขอให้ตนเรียนให้ผู้สูงอายุทั่วทั้งประเทศได้รับทราบว่าคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติเป็นห่วงเป็นใยผู้สูงอายุทุกคนโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้สูงอายุทุกท่านขอความกรุณาให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิดกรุณาอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุที่เข้าไปขอรับบริการเป็นกรณีพิเศษด้วย
#3412
ขายที่ดินแม่จัน-เชียงราย-เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

ขายที่ดินแม่จัน-เชียงราย-เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ทีดินบนเนินเขา ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน  พื้นที่ 10ไร่ 1 งาน 35 ตารางวา พัฒนาแล้ว เหมาะมากสำหรับทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

ขายที่ดินแม่จัน-เชียงราย-เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว
ขายถูกที่ดินแม่จันสวยมาก เชียงราย ทีดินสวยมากบนเนินเขา เนื้อที่ 10ไร่ 1 งาน 35 ตารางวา ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน พัฒนาแล้ว ปรับแต่ง ภูมิทัศน์ จัดมุมต่างอย่างสวยงาน เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ใกล้แหล่งท่องเที่ยว

ขายที่ดินสวยและถูกแม่จัน เชียงราย เหมาะทำรีสอร์ท ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน
เชียงราย ขายที่ดินสวยและถูกแม่จัน ใกล้แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดเชียราย
เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เห็นวิวธรรมชาติ อากาศดีมาก เป็นส่วนตัว ใกล้ ตัวเมือง,แหล่งท่องเที่ยว,
-โรงพยาบาล เดินทาง 10 นาที 8 กม.
-โลตัส เดินทาง 10 นาที 8 กม.
-เซเว่น เดินทาง 5 นาที 4 กม.
-ตลาด เดินทาง 5 นาที 4 กม.
-ห้าแยกพ่อขุน เดินทาง 40 นาที 35 กม.
-ม.แม่ฟ้าหลวง เดินทาง 25 นาที 20 กม.
-ไร่ชาฉุยฟง เดินทาง 25 นาที 18.5 กม.
-พระตำหนักดอยตุง เดินทาง 30 นาที 29 กม.
ทีดินเหมาะสร้างบ้านแม่จัน หรือ เหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ทำแหล่งท่องเที่ยว จุดกางเต้นท์ รีสอร์ท ร้านอาหาร ได้
ขายที่ดินอำเภอแม่จันเหมาะทำรีสอร์ท โฮมสเตย์ ปล.ที่ดินพัฒนาแล้ว ระบบน้ำไฟ พร้อม และ ได้ทำการจัดวางมุมต่างๆให้ดูสวยงาม พื้นที่ดินได้รับการดูแลอยู่เสมอ รอคุณมาเป็นเจ้าของ


ราคา ยกแปลง 13 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
090-1419966, 081-1122440


รายละเอียดเพิ่มเติม
https://tdin.online/ขายที่ดินสวยและถูกแม่จ/

คำค้น
ขายที่ดินสวยและถูกแม่จันเหมาะทำรีสอร์ท, ขายที่ดินสวยและถูกแม่จัน-เชียงราย, ขายที่ดินใกล้แหล่งท่องเที่ยวแม่จัน,  ขายที่ดินเหมาะทำโฮมสเตย์แม่จัน-เชียงราย, ทีดินเหมาะสร้างบ้านแม่จัน 
#3413


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 29 กรกฎาคมนี้ คณะทำงาน ส.อ.ท. เตรียมหารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทาง ส.อ.ท. จะสอบถามความคืบหน้าการจัดสรรวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดให้กับภาคอุตสาหกรรมล่าสุดเป็นอย่างไร รวมทั้งจะแจ้งมาตรการที่ ส.อ.ท. กำลังดำเนินการในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขการติดเชื้อในโรงงานขนาดใหญ่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ต้องเร่งกันช่วยกันป้องกัน ไม่เช่นนั้นจะกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งกระทบการแพร่ระบาดในชุมชน หากต้องปิดโรงงาน จะกระทบต่อกระบวนการผลิตสินค้า ซึ่งจะกระทบทั้งสินค้าในภาคการส่งออก และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในประเทศ เป็นเรื่องใหญ่มาก หรือถ้ารัฐสั่งปิดเอง ต้องจ่ายเงินเยียวยาอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ได้เร่งผลักดันให้ทุกโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข ประเมินตนเอง และโรงงาน ผ่านไทย สต็อป เซอร์วิส พลัส และไทย เซฟ ไทย รวมทั้งล่าสุดได้ยกระดับให้เข้มข้นขึ้น ให้โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทุกแห่งดำเนินการมาตรการ บับเบิล แอนด์ ซีล (bubble and seal) ซึ่งเป็นการควบคุมคนในโรงงาน ให้มีกิจกรรมปะปนกันเอง และกับคนนอกโรงงานให้น้อยที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดการติดเชื้อ โดยแรงงานที่อาศัยนอกโรงงานต้องควบคุมการเดินทางระหว่างที่ทำงานกับที่พักอาศัย ไม่แวะทำธุระระหว่างเดินทาง และเมื่อกลับถึงที่พัก ต้องอยู่ภายในที่พักอาศัยเท่านั้น ขณะที่แรงงานที่พักอาศัยในโรงงาน ต้องมีการควบคุมไม่ให้แรงงานออกนอกพื้นที่แรงงาน

นอกจากนี้ ได้แจ้งให้โรงงานขนาดใหญ่เตรียมพร้อมแผนรับมือหากมีการติดเชื้อในโรงงานจำนวนมาก โดยให้จัดโรงพยาบาลสนาม และพื้นที่พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อ จัดเตรียมสถานที่พักในโรงงานหรือในชุมชน เป็นที่พักสำหรับผู้สัมผัสผู้ป่วย แต่ยังตรวจไม่พบเชื้อหรือยังไม่มีอาการ จัดเตรียมระบบเดินทางรับ-ส่ง คนงาน จากที่พักถึงโรงงานหรือสถานประกอบการ ป้องกันการแวะระหว่างทาง จัดหาร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค ราคาย่อมเยา ในบริเวณโรงงานหรือที่พัก ลดการสัมผัสระหว่างคนงานและคนในชุมชน และให้จัดหาสถานพยาบาลที่พร้อมให้บริการตรวจหาเชื้อ ด้วยพีซีอาร์ (PCR) และแอนทิเจน เทสต์ คิต (Antigen Test Kit)

ส่วนการบริหารจัดการคนทำงานร่วมกันในพื้นที่โรงงาน ให้จัดพนักงานแยกเป็นกลุ่มย่อย หรือแยกเป็นบับเบิล แต่ละกลุ่มสามารถทำงานร่วมกันโดยป้องกันตนเอง แต่ไม่ให้มีการทำงานหรือกิจกรรมข้ามกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มมีสัญลักษณ์แสดงชัดเจน ไม่ให้มีกิจกรรมข้ามกลุ่มจำนวนคนแต่ละกลุ่มยิ่งน้อยยิ่งดี เช่น โรงงานมีพนักงาน 500 ราย กลุ่มหนึ่งไม่เกิน 20 ราย ถ้าเป็น 1-5 คน จะดีที่สุด หากบับเบิลใดมีผู้ติดเชื้อ กลุ่มผู้มีสัมผัสเสี่ยงสูงก็จะถูกจำกัดในบับเบิลนั้น ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง คนที่มีน้ำหนักมากกว่า 90 กิโลกรัม หญิงตั้งครรภ์ ให้จัดทำงานที่ไม่สัมผัสคนจำนวนมาก หากให้อยู่ในบับเบิลเฉพาะกลุ่มนี้ได้ จะทำให้เกิดความปลอดภัยสำหรับกลุ่มนี้มากขึ้น

รวมทั้งให้มีการสุ่มคนงานตรวจหาเชื้อในสถานประกอลการขนาดใหญ่ ให้สุ่ม 75 ราย ต่อคนงานทุกๆ 500 ราย สถานประกอบการขนาด 100-500 ราย สุ่ม 75 ราย โดยกระจายการสุ่มให้ครอบคลุมกลุ่มต่างๆ ที่แยกไว้ หากพบผู้ติดเชื้อ ให้แยกไปอยู่ในโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย หรือรักษาตนเองที่บ้าน ส่วนคนงานที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับผู้ติดเชื้อ ถือว่าเป็นผู้สัมผัส ให้หยุดงานและกักตัว 14 วันทุกราย
#3414
ไอดินไทย เครื่องประดับดินปั้น ด้วยแรงบันดาลใจทำเครื่องประดับดินปั้นมาจากความชื่นชมที่มีต่อละครมนต์รักลูกทุ่งรวมทั้งแฟชั่นการแต่งกายสมัยนั้น





ทำให้ท่านพัชร์ชิสา ไชยวีรวัฒน์ เกิดไอเดียสำหรับการทำเครื่องประดับร่วมกับการเรียนปั้นดินไทยของชุมชนระแหง จังหวัดตาก จนกระทั่งกลายมาเป็นเครื่องประดับดินปั้นที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วมากกว่า 10 ปี





ซึ่งตัววัสดุนั้นเป็นดินไทยที่ผสมกับดินท้องถิ่นของจังหวัดตาก มีความสวยงามผสมความเป็นไทย สีสันสดใส ความเป็นธรรมชาติและก็นอกจากนี้ทุกผลิตภัณฑ์มีรอยนิ้วมือจากการปั้น โดยไม่ใช้เครื่องจักร แสดงให้เห็นถึงงานฝีมืออย่างแท้จริง


#3415



ทีมเงือกสาว จีน ทำลายสถิติโลก การแข่งขันผลัดฟรีสไตล์ 4x200 เมตร คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก 2020 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม

สมาชิกทีมว่ายผลัด 4x200 เมตรของ จีน ได้แก่ หยาง จุน ซวน, จาง ยู่ เฟย, หลี่ ปิงเจี๋ย และ ตัง มู่หาน แตะขอบสระทีมแรก เวลา 7 นาที 40.33 วินาที ตามด้วยอันดับ 2 สหรัฐอเมริกา 7 นาที 40.73 วินาที และอันดับ 3 ออสเตรเลีย 7 นาที 41.29 วินาที

ทั้ง 3 ทีม ต่างทำเวลาต่ำกว่าสถิติโลกเดิม 7 นาที 41.50 วินาที ของ ออสเตรเลีย ซึ่งสร้างไว้ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก เมื่อปี 2019
#3416


นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเร่งเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้กลยุทธ์ "Building A Stronger Now" ปรับตัวและพัฒนาทิศทางการทำงานของทุกองคาพยพในองค์กร เพื่อให้องค์กร พนักงาน พันธมิตร ลูกบ้าน ตลอดจนลูกค้าใหม่ ยังสามารถก้าวไปได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ภายใต้ทุกความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

"ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังคงได้รับแรงกดดันอย่างมากจากโควิด-19 ทุกธุรกิจและอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน สิ่งที่เราต้องทำคือ ทำให้มากกว่า ทำให้แกร่งกว่า วางแผนพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เราสามารถควบคุมความไม่แน่นอนเหล่านั้นและรับมือทุกสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ใช่แค่ทำให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้น เราต้องช่วยพนักงาน ช่วยพันธมิตร ช่วยลูกบ้าน ช่วยลูกค้า ช่วยผู้เกี่ยวข้องกับองค์กรในทุกส่วนให้แกร่งขึ้นไปด้วย เพื่อให้ทุกคนรอดพ้นจากความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน" นางสาวเพชรลดา กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ Building A Stronger Now ประกอบด้วยการปรับตัวและพัฒนาการทำงานภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.Stronger Move เดินหน้าองค์กรให้แกร่งกว่าเดิมและเข้ากับสถานการณ์ เริ่มต้นจากด้านการพัฒนาโครงการ ด้านการพัฒนาโครงการ ปรับแผนในช่วงไตรมาส 4/2564 เน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวแทนคอนโดมิเนียม โดยปรับจากแผนเดิมที่มีบ้านเดี่ยว 1 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ สู่การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 1 โครงการแทน ด้านการตลาด เร่งจับมือพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการของเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น อาทิ การเยี่ยมชมโครงการแบบ 360 Virtual Tour ภายใต้ Major Private Tour และจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้านการเงิน เร่งสำรองเงินสด และสินเชื่อพร้อมใช้ ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรับมือความท้าทาย พร้อมทั้งได้เตรียมการในการจ่ายคืนหุ้นกู้ในปีนี้ให้ครบถ้วน ด้านการกระจายความเสี่ยง เร่งเดินหน้าธุรกิจใหม่ๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ HealthScape ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (Lifescape Developer) คาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ธุรกิจ HealthScape ในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 นี้

2.Stronger Community ดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ทุกส่วนให้แข็งแกร่งกว่าเดิม ทั้งกลุ่มพนักงาน พันธมิตร ตลอดจนลูกบ้าน โดยออกแคมเปญ We've got your back เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องในด้านชีวิตความเป็นอยู่ อาทิ การเปิดให้ลูกบ้าน พนักงาน ครอบครัว คู่ค้า สามารถร่วมจองวัคซีนทางเลือกผ่านบริษัท การจัดส่งอาหารและของใช้จำเป็นไปมอบให้ผู้รับเหมาและแคมป์คนงาน การเปิดพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถโปรโมทร้านค้าของตัวเองได้บน Official Facebook Fanpage ของ Major Development การมอบพริวิเลจดูแลทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงให้ครอบคลุมความเป็น Pet-friendly residences ขณะเดียวกัน เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน มอบ Financial Solution ดูแลทั้งลูกบ้านเดิมและลูกค้าใหม่

3.Stronger Life Journey เร่งศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค และ Customer Journey ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงโควิด-19 เพื่อมาพัฒนาสินค้าและบริการทั้งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและกลุ่มธุรกิจใหม่ให้ตอบโจทย์ทุกห้วงเวลาชีวิตของผู้บริโภคในอนาคต

ADVERTISEMENT


x
นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทยังคงรักษาขีดความสามารถในการดำเนินการได้อย่างดี มี Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 รวม 4,635 ล้านบาท และสามารถปิดการขายได้ถึง 3 โครงการ ในที่นี่รวมไปถึงโครงการมอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31 ที่ปิดโครงการได้ภายในเวลาเพียง 1 ปี การก่อสร้างและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย ที่ทำได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน มาตรการปิดแคมป์คนงาน ในช่วงเดือน ก.ค. ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานภาพรวมของบริษัทมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพียงไม่กี่โครงการ เช่น โครงการมิวนีค หลังสวน ซึ่งเดิมก่อสร้างมาได้เร็วกว่าแผนงาน และน่าจะส่งมอบได้ตามกำหนดการ การเดินหน้ากลยุทธ์ Building A Stronger Now จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ต่อยอดการดำเนินงานของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นจากครึ่งปีแรก พร้อมรับมือทุกความท้าทายและดูแลทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้ก้าวไปได้อย่างยั่งยืน
นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังเร่งเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอก ภายใต้กลยุทธ์ "Building A Stronger Now" ปรับตัวและพัฒนาทิศทางการทำงานของทุกองคาพยพในองค์กร เพื่อให้องค์กร พนักงาน พันธมิตร ลูกบ้าน ตลอดจนลูกค้าใหม่ ยังสามารถก้าวไปได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ภายใต้ทุกความท้าทายในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

"ภาพรวมเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังยังคงได้รับแรงกดดันอย่างมากจากโควิด-19 ทุกธุรกิจและอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน สิ่งที่เราต้องทำคือ ทำให้มากกว่า ทำให้แกร่งกว่า วางแผนพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายสุด ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อให้เราสามารถควบคุมความไม่แน่นอนเหล่านั้นและรับมือทุกสถานการณ์ได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ใช่แค่ทำให้องค์กรแข็งแกร่งขึ้น เราต้องช่วยพนักงาน ช่วยพันธมิตร ช่วยลูกบ้าน ช่วยลูกค้า ช่วยผู้เกี่ยวข้องกับองค์กรในทุกส่วนให้แกร่งขึ้นไปด้วย เพื่อให้ทุกคนรอดพ้นจากความท้าทายครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างยั่งยืน" นางสาวเพชรลดา กล่าว

สำหรับกลยุทธ์ Building A Stronger Now ประกอบด้วยการปรับตัวและพัฒนาการทำงานภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่ 1.Stronger Move เดินหน้าองค์กรให้แกร่งกว่าเดิมและเข้ากับสถานการณ์ เริ่มต้นจากด้านการพัฒนาโครงการ ด้านการพัฒนาโครงการ ปรับแผนในช่วงไตรมาส 4/2564 เน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวแทนคอนโดมิเนียม โดยปรับจากแผนเดิมที่มีบ้านเดี่ยว 1 โครงการและคอนโดมิเนียม 2 โครงการ สู่การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการและคอนโดมิเนียม 1 โครงการแทน ด้านการตลาด เร่งจับมือพันธมิตรเพื่อเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าถึงโครงการของเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น อาทิ การเยี่ยมชมโครงการแบบ 360 Virtual Tour ภายใต้ Major Private Tour และจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ด้านการเงิน เร่งสำรองเงินสด และสินเชื่อพร้อมใช้ ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจให้พร้อมรับมือความท้าทาย พร้อมทั้งได้เตรียมการในการจ่ายคืนหุ้นกู้ในปีนี้ให้ครบถ้วน ด้านการกระจายความเสี่ยง เร่งเดินหน้าธุรกิจใหม่ๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ HealthScape ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้พัฒนารูปแบบการใช้ชีวิต (Lifescape Developer) คาดว่าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ภายใต้ธุรกิจ HealthScape ในช่วงปลายไตรมาส 3/2564 นี้

2.Stronger Community ดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ทุกส่วนให้แข็งแกร่งกว่าเดิม ทั้งกลุ่มพนักงาน พันธมิตร ตลอดจนลูกบ้าน โดยออกแคมเปญ We've got your back เข้าไปดูแลให้ความช่วยเหลือผู้เกี่ยวข้องในด้านชีวิตความเป็นอยู่ อาทิ การเปิดให้ลูกบ้าน พนักงาน ครอบครัว คู่ค้า สามารถร่วมจองวัคซีนทางเลือกผ่านบริษัท การจัดส่งอาหารและของใช้จำเป็นไปมอบให้ผู้รับเหมาและแคมป์คนงาน การเปิดพื้นที่ให้ลูกบ้านสามารถโปรโมทร้านค้าของตัวเองได้บน Official Facebook Fanpage ของ Major Development การมอบพริวิเลจดูแลทั้งลูกบ้านและสัตว์เลี้ยงให้ครอบคลุมความเป็น Pet-friendly residences ขณะเดียวกัน เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงิน มอบ Financial Solution ดูแลทั้งลูกบ้านเดิมและลูกค้าใหม่

3.Stronger Life Journey เร่งศึกษาแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภค และ Customer Journey ของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงโควิด-19 เพื่อมาพัฒนาสินค้าและบริการทั้งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซูรีและกลุ่มธุรกิจใหม่ให้ตอบโจทย์ทุกห้วงเวลาชีวิตของผู้บริโภคในอนาคต

นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทยังคงรักษาขีดความสามารถในการดำเนินการได้อย่างดี มี Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 รวม 4,635 ล้านบาท และสามารถปิดการขายได้ถึง 3 โครงการ ในที่นี่รวมไปถึงโครงการมอลตัน ไพรเวท เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 31 ที่ปิดโครงการได้ภายในเวลาเพียง 1 ปี การก่อสร้างและทยอยโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการเมทริส พัฒนาการ-เอกมัย ที่ทำได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน มาตรการปิดแคมป์คนงาน ในช่วงเดือน ก.ค. ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานภาพรวมของบริษัทมากนัก เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเพียงไม่กี่โครงการ เช่น โครงการมิวนีค หลังสวน ซึ่งเดิมก่อสร้างมาได้เร็วกว่าแผนงาน และน่าจะส่งมอบได้ตามกำหนดการ การเดินหน้ากลยุทธ์ Building A Stronger Now จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ต่อยอดการดำเนินงานของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นจากครึ่งปีแรก พร้อมรับมือทุกความท้าทายและดูแลทุกองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับบริษัทให้ก้าวไปได้อย่างยั่งยืน
#3417



นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์   รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมทูตพาณิชย์ ทูตเกษตร และผู้ประกอบการส่งออกผลไม้  ผู้ประกอบการด้านขนส่งโลจิสติกส์ รวมทั้งภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งผลไม้ส่งออก ว่า  ขณะนี้การส่งออกมังคุดข้ามแดนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ประสบปัญหารถบรรทุกผลไม้ไทยติดค้างที่ด่านเวียดนามก่อนเข้าจีน ที่ด่านโหยวอี้กว่าน หลาย 100 คันเป็นเวลาหลายวัน จึงมีผลกระทบต่อการส่งออกมังคุดไปยังประเทศจีน ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายแล้วหลังจากทูตเกษตร-ทูตพาณิชย์ได้เจรจากับทางการจีนและร่วมกันแก้ปัญหาทำให้การจราจรเริ่มดีขึ้น

ทั้งนี้ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ส่งออกผ่าน"ด่านโหยวอี้กว่าน "  ซึ่งด่านนี้มีศักยภาพจำกัดเพราะมีช่องทางผ่านเต็มที่แค่ 67 ช่องทาง ทางการจีนประสงค์ให้ไทยไปใช้บริการที่ด่านตงซิงและด่านรถไฟผิงเสียงมากขึ้น หากไปใช้อีก 2 ด่านมากขึ้นจะได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำการอำนวยความสะดวกให้ เพราะ"ด่านตงซิง"ซึ่งเป็นด่านรถบรรทุกมีรถของไทยไปใช้บริการแค่วันละ 10-20 คัน ยังมีศักยภาพรองรับอีกเป็นจำนวนมาก  ตนจึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์คุยกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยและผู้เกี่ยวข้องในการหาลู่ทางใช้"ด่านตงซิง"กับ"ด่านรถไฟผิงเสียง"มากขึ้น

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  ส่วนปัญหาเรื่องล้งรับซื้อผลไม้กับแรงงานที่ไปกับล้ง  เนื่องจากล้งส่วนใหญ่รับซื้อผลไม้อยู่ที่จังหวัดจันทบุรี ขณะนี้หมดฤดูแล้วซึ่งจำหน่ายได้ราคาดีมากถึงกิโลกรัมละ 100-200 บาท แต่ช่วงเวลานี้มังคุดภาคใต้ออกเยอะกว่าหลายปีที่ผ่านมากับเกิดการล็อกดาวน์จากปัญหาโควิด ล้งจากจังหวัดจันทบุรีพร้อมแรงงานติดปัญหาในการเคลื่อนย้ายไปที่นครศรีธรรมราชและชุมพรไม่ได้ จึงได้หารือร่วมกันกับผู้ว่าจังหวัดจันทบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดชุมพร พร้อมกันผ่านทางโทรศัพท์ (Phon in)  โดยทั้ง 3 จังหวัดได้รับทราบปัญหาแล้ว และได้มีการดำเนินการอนุญาตให้ล้งและแรงงานจากจันทบุรีสามารถเคลื่อนย้ายไปรับซื้อมังคุดที่นครศรีธรรมราชและจังหวัดชุมพรจังหวัดอื่นๆที่ต้องการได้โดยมอบหมายให้ จัดหางานจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดร่วมกันดำเนินการซึ่งภาคเอกชนพอใจมากและตัวแทนล้งรวมทั้งสมาคมล้งแจ้งให้ทราบว่าหลังการประชุมจะรีบประชุมล้งในการรีบเคลื่อนย้ายล้งไปเพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 100 ล้ง

ส่วนมาตรการอื่น ๆก็ได้มีการสนับสนุนให้ล้งที่ไปรับซื้อหรือกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมมังคุดกิโลกรัมละ 3 บาท และสำหรับผู้รวบรวมส่งออกกิโลกรัมละ 5  จัดทำกล่องบรรจุมังคุด 200,000  กล่องไปให้ไปรษณีย์กับกลุ่มเกษตรกรที่ต้องการ และจะร่วมรณรงค์ให้คนไทยบริโภคมังคุดมากขึ้น พร้อมประสานงานกับห้างโมเดิร์นเทรด เช่น แม็คโคร บิ๊กซีเทสโก้ รวมทั้งปั๊มปตท.และบางจากเปิดพื้นที่รับมังคุดจากเกษตรกรมาจำหน่าย   ใช้เกษตรพันธสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้ผู้ส่งออกหรือผู้ค้ามังคุดทำสัญญากับเกษตรกรล่วงหน้ามีเป้าหมาย 20,000 ตันขณะนี้ทำสัญญาล่วงหน้าแล้ว 17,600 ตัน นอกจากนี้ยังได้ประสานกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก หรือ ททบ. 5 รณรงค์ขายมังคุด ผ่านแพลตฟอร์ม Ohlala shopping  และให้เซลล์แมนจังหวัดระบายมังคุดไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งมีการระบายแล้วทั้งพิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดอื่นๆ ช่วงที่ผ่านมาถึง 200 ตันและมาตรการสุดท้าย ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสินิตย์ เลิศไกร นำคณะเดินทางไปในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมกับจังหวัดร่วมกับกลุ่มเกษตรกรช่วยคลี่คลายปัญหา
#3418
Zoom meetingทำไมคนทั่วโลกที่นิยม Zoom Download

ในตอนนี้ผู้เขียนยังอยู่ในสถานการณ์โรค COVID-19 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องเรียน และ ทำงานผ่านระบบออนไลน์ หรือคำยอดฮิตคือ work from home นั่นเอง ขอเรียกสั้นๆว่า WFH นะครับ
การ WFH นั้นต้องทำอย่างไร และ ง่ายหรือเปล่า ผู้เขียนจะมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกันครับ ซึ่งการที่เราจะ WFH ได้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบดังนี้ คือ 

1.    อินเตอร์เน็ตที่ความเร็ว อย่างต่ำ 2M ขึ้นไป
2.    กล้อง Web camera ความละเอียดอย่างน้อย Full HD 1080 P
3.    ไมค์ พร้อม ลำโพง หรือ หูฟัง
4.    โปรแกรมสำหรับการเรียนหรือ ประชุมออน์ไลน์

ในทีนี้ ผู้เขียน จะมาเล่าและแนะนำเกี่ยวกับโปรแกรมสำหรับ WFH ที่คนทั่วโลกนิยมใช้ในตอนนี้ คือ โปรแกรม ZOOM
ซึ่งในรายละเอียดเชิงลึกคือ Zoom Meeting ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและลงโปรแกรมได้หลายอุปกรณ์มากๆ เช่น
คอมพิวเตอร์  , โน้ตบุ๊ก , มือถือ และ แทปเล็ต  โดยเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่เว็ปไซด์ zoom.us  และไปที่เมนู  Zoom download  จากนั้นหากเสร็จแล้วก็เข้าไปที่เมนู Zoom join เพื่อลงทะเบียนและเข้าใช้งานได้เลยครับ ซึ่งเป็นโปรแกรมใช้งานง่ายมาก มีคนสอนการใช้งานหลากหลายคนเลย 

อีกเรื่องนึง โปรแกรม Zoom นั้นใช้แบนด์วิท (Bandwidth) เรื่องอินเตอร์เน็ตต่ำมากทำให้การค้าง หรือ แลคนั้นน้อยมากๆ จึงเป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้คนใช้งานมากมาย

#3420



วันที่ 23 ก.ค.64 องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (อสส.) โดยนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC)  โดย ดร.ปราศรัย ประวัติรุ่งเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC สะพานใหม่) และดร.ประสาน ประวัติรุ่งเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ (SBAC นนทบุรี) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงทางวิชาการและวิชาชีพเพื่อการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษา ผ่านระบบ Zoom โดยมีรศ.ดร. วรสัณฑ์ บูรณากาญจน์ กรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย และ ประธานอนุกรรมการด้านการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
 
​ สำหรับความร่วมมือในการพัฒนา องค์ความรู้ร่วมกันครั้งนี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของทั้งสองหน่วยงานที่ต้องการให้เกิดภูมิปัญญาและต่อยอดนวัตกรรมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ของบุคลากร นักศึกษาด้านวิชาการและเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริม สนับสนุนกิจกรรมด้านการพัฒนางานวิจัยนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินงานตามภารกิจหลักของทั้งสองหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด