• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

Menu

Show posts

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.

Show posts Menu

Topics - Shopd2

#3621
Room Fiberry รูมไฟเบอรี่ ดีท็อกซ์ชนิดผงชงดื่ม ดื่มง่าย ถ่ายคล่อง
 

สุขภาพดีเริ่มต้นที่.. " การขับถ่าย "ROOM FIBERRY (รูม ไฟเบอร์รี่)ตัวช่วยของคนรักสุขภาพ เติมเต็มส่วนที่ขาด กำจัดส่วนเกินกินทุกวันแต่ไม่ขับถ่ายทุกวัน ต้นเหตุของ "โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง"อาทิเช่น ท้องผูก ท้องเสีย มะเร็งลำไส้ใหญ่อ้วนลงพุง และโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการดูดซึมของเสีย หรือสารพิษที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกายทำให้เซลล์ถูกทำลายจากสารอนุมูลอิสระต่างๆ
 
Room Fiberry (รูม ไฟเบอร์รี่) มีส่วนช่วยในการดีท็อกซ์ร่างกายมากถึง 5 ระบบ
- ระบบลำไส้
- ระบบตับ
- ระบบไต
- ระบบเลือด
- ระบบผิวหนัง
 
•รวบรวมสารสกัดจากผักผลไม้ถึง 36 ชนิด
• อุดมไปด้วยวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นจากผักและผลไม้ 7 สี
• เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 100%
• กวาดเศษปฏิกูลของเสียออกจากส่วนที่ติดค้างในลำไส้
• ดูดสารพิษและกลิ่นเน่าเหม็น
• ขับถ่ายตามเวลาภายใน 8-12 ชั่วโมง
• ช่วยให้ผิวพรรณสดใสมากขึ้น
• ช่วยให้ร่างกานผ่อนคลายและหลับสบายยิ่งขึ้น
• รสชาติมิกซ์เบอร์รี่ หอม อร่อย ทานง่าย
 
Room Fiberry"ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค""อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค""ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ"ผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา
 
ขึ้นทะเบียน เลขที่ 13-1-01760-3-0002
 
บรรจุ 1 กล่อง / 14 ซอง
วิธีรับประทาน ชงน้ำเย็น 50-100 ml/1 ซอง ดื่มก่อนนอน วันละ 1 ซอง
 ราคา  590 บาท

สนใจติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อ
Tel. 0846623662
Line id : teerapat999

ข้อมูลเพิ่มเติม   http://porntaywa99.lnwshop.com/p/1233

 
#รูมไฟเบอรี่ดีท็อกซ์กระชับสัดส่วน#ROOMFIBERRY ดูแลผิวพรรณป้องกันความอ้วน##ดีท๊อก#ดีท๊อกลำไส้ #ดีท๊อกของเสีย #วิตามิน #เพื่อสุขภาพที่ดี #ลดพุง #ถ่ายคล่อง #สินค้าดี
#3622



สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (Global Compact Network Thailand – GCNT) ได้จัดเสวนาออนไลน์เรื่อง "บทบาทภาคเอกชนไทยในการส่งเสริมการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน" เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2564 เพื่อยกระดับการจัดการด้านระบบอาหารที่ยั่งยืนจากภาคธุรกิจเอกชนไทยสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามกรอบการประชุมสุดยอดด้านระบบอาหารของสหประชาชาติ

โดยข้อสรุปจากเสวนาครั้งนี้จะรวบรวมเป็นข้อเสนอแนะจากภาคธุรกิจไทยสู่การประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก (UN Food Systems Summit 2021) ที่จะจัดขึ้นในปลายปีนี้ เพื่อพัฒนาระบบอาหารโลกให้เกิดความแข็งแรงและยั่งยืน โดยในงานมีผู้เข้าร่วมจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม กว่า 100 คน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้ประสานงาน UN Food System Summit National Convener กล่าวว่า ภาคเอกชนมีส่วนสำคัญในการเสนอแนวทางการพัฒนาการจัดระบบอาหารโลกให้ยั่งยืน โดยข้อเสนอแนะจากงานเสวนานี้จะนำไปเชื่อมโยงกับข้อเสนอจากผู้ที่มีบทบาท และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการผลิตในแต่ละภาคส่วนของประเทศไทย เพื่อนำไปเป็นแนวทางและข้อเสนอจัดทำนโยบายแผนงานการปฏิรูประบบอาหารและการเกษตรอย่างมั่นคงในการประชุมสุดยอดผู้นำระบบอาหารโลก UN Food Systems Summit 2021 เพื่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายในปี 2573

โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบความมั่นคงและเป็นจุดเปลี่ยนทางด้านอาหารโลกที่หลายประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยประเทศไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นครัวของโลก จะต้องนำประสบการณ์การจัดการระบบอาหารของประเทศไทยภายใต้นโยบาย 3 S คือ Safety, Security และ Sustainability ของภาคเกษตรและระบบอาหารให้มีความยั่งยืน ผู้ประกอบการทางด้านภาคเกษตรจะต้องปรับตัวนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ต่อกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

และเน้นไปสู่รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจแบบใหม่ โดยมุ่งเป้าหมายด้าน Zero Waste ลดขยะให้เป็นศูนย์เพื่อบรรลุเป้าหมายความยั่งยืน พร้อมกับการพัฒนาอาหารในอนาคต Future Food ที่จะต้องเน้นในเรื่องของการพัฒนาสมุนไพรไทย และการพัฒนาอาหารจากพืช รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการอาหารสัตว์ ซึ่งจะเป็นการจัดการทั้งระบบของอาหารตลอดห่วงโซ่อุปทาน


นายนพปฏล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ในฐานะเลขาธิการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคธุรกิจเอกชนต่างๆได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ดำเนินการตามแนวทางพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืน หรือ Food Systems Sustainability ภายใต้กรอบของสหประชาชาติที่มีความท้าทายในเรื่องการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนต่อประชากรทั้งโลก 9 พันล้านคนภายในปี 2050 โดยมีความท้าทายตั้งแต่การผลิตอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการจำนวนมาก

ตลอดจนการผลิตและจัดการอาหารให้เกิดประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมให้มากที่สุด ซึ่งในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา แม้โลกจะพัฒนาด้านความยั่งยืนดีขึ้นหลายด้านตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะประเทศไทยที่ได้พัฒนาตามแนวทาง SDGs เป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคอาเซียน และอยู่ในลำดับต้นๆของเอเชีย แต่การจะบรรลุสู่เป้าหมาย SDGs ในปี 2030 ไม่ใช่เรื่องง่าย และขณะนี้เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้การพัฒนาเพื่อความยั่งยืนต่างๆถดถอย อาทิ

เป้าหมายที่ 2 ของ SDGs คือ No Hunger ที่ผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้จำนวนประชากรโลกที่ประสบปัญหาขาดแคลนอาหารเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามสหประชาชาติได้พยายามสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนที่เป็นระบบมากขึ้นผ่าน UN Food Systems Summit ที่กำลังจะมีการจัดประชุมเร็วๆนี้ และเล็งเห็นว่าประเด็นการจัดการอาหารโลกที่ยั่งยืนเป็นเรื่องสำคัญระดับโลกเช่นเดียวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ


ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร์ ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภาพรวมของกระบวนการ UN Food Systems Summit ซึ่งเป็นการประชุมที่เน้นให้ความสำคัญการร่วมมือของทุกภาคส่วนในการร่วมกันจัดการระบบอาหารโลกตลอดห่วงโซ่อุปทานให้เกิดความยั่งยืน โดยเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กฯ เป็นกลุ่มภาคเอกชนที่มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจที่ควบคู่กับความยั่งยืนในทุกมิติ ซึ่งจะทำให้เกิดความร่วมมือและข้อเสนอแนะจากประเทศไทยสู่การประชุมระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นภายใต้กรอบแนวทางการพัฒนาระบบอาหารที่ยั่งยืนทั้ง 5 แนวทางที่จะเป็นแนวทางสร้างเครือข่ายความร่วมมือยกระดับการเติบโตของภาคเกษตร การจัดการระบบอาหารไทยสู่ระบบอาหารโลกให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ขณะที่ตัวแทนกลุ่มธุรกิจจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยนางสาวอินทิรา พฤกษ์รัตนนภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักพัฒนาและประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 1 :อิ่มถ้วนหน้า ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ โดยกล่าวว่า เครือซีพีและซีพีออลล์ให้ความสำคัญกับระบบอาหารที่ยั่งยืนทำให้ประชากรเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อช่วยลดอัตราการป่วยจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม

อย่างไรก็ตามยังมีประชากรบางกลุ่มประสบปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งการสร้างสุขภาพและสุขภาวะประชากรที่ดีต่อประชาชนในแต่ละประเทศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของประเทศนั้นๆ ประเทศไทยในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมธุรกิจอาหารและเกษตรในภูมิภาคนี้จึงมีส่วนสำคัญที่จะผลักดันสิ่งเหล่านี้ให้ประเทศพัฒนา ซึ่งนโยบายของเครือซีพีและซีพีออลล์ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราร่วมสร้างระบบอาหารโลกที่ยั่งยืนตั้งแต่การสร้างสรรค์สินค้าที่มีโภชนาการที่ดี เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลาย และสร้างความมั่นคงอาหารให้ประเทศไทย โดยนำนวัตกรรมที่ได้ศึกษามาต่อยอดสร้างอาหารที่ถูกหลักโภชนาการมีความปลอดภัยตลอดจนร่วมสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนตลอดห่วงโซ่อุปทานด้วยการบริหารจัดการคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

นางสาวศิรภัสสร สกุลวิวรรธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้ร่วมเสวนาใน Action Track 5: อิ่มทุกเมื่อ เสริมสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของระบบอาหาร กล่าวว่า ซีพีเอฟได้ส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารมาโดยตลอดตามแนวทางอาหารมั่นคง สังคมมั่นคง ดินน้ำป่าคงอยู่ โดยเฉพาะการสร้างแหล่งอาหารให้ชุมชนที่ดำเนินการมากว่า 30 ปี โดยการสร้างองค์ความรู้ให้ชุมชนมีศักยภาพผลิตอาหารได้ด้วยตัวเอง ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งในภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตัวเองได้

นอกจากนี้ยังได้นำองค์ความรู้เข้าสู่ชุมชนเพื่อร่วมพัฒนาระบบอาหารยั่งยืนผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน โครงการอิ่มสุขปลูกอนาคต โดยสร้างองค์ความรู้ให้เยาวชนได้เข้าใจการผลิตอาหารที่ถูกโภชนาการได้ด้วยตัวเอง และร่วมรักษาเสถียรภาพความมั่นคงในระบบห่วงโซ่อุปทาน แบ่งปันและถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกับเกษตรกรรายย่อยโดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการผลิตอาหารอย่างยั่งยืน และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนดูแลความหลากหลายทางชีวภาพ
#3623



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ทีมนักวิจัยจากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ สหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ผ่านวารสารวิชาการทางการแพทย์ชื่อดังเมื่อวันจันทร์ (26 ก.ค.) ค้นพบว่า คนส่วนใหญ่ที่เกิดการแพ้วัคซีนประเภท mRNA จะยังคงสามารถฉีดเข็ม 2 ได้อยู่ หลังการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส กลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อสู้กับการระบาดไวรัสเดลตา ซึ่งล่าสุดมีการค้นพบในจีนว่า ผู้ป่วยไวรัสเดลตามีเชื้อไวรัสในช่องจมูกสูงกว่า 1,260 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับของการระบาดระลอกแรก

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ผู้แต่งร่วมอาวุโสของการวิจัย คิมเบอร์ลี จี.บลูเมนทัล (Kimberly G.Blumenthal) จากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts General Hospital) กล่าวในรายงานที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารทางวิชาการแพทย์ชื่อดัง JAMA Internal Medicine เมื่อวันจันทร์ (26) ว่า หนึ่งในสิ่งสำคัญจากการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นปฏิกิริยาการแพ้ทันทีต่อวัคซีน mRNA  อาจจะไม่ใช่เป็นการแพ้อย่างเป็นกลไกเช่นเดียวกันการแพ้โดยทั่วไป ซึ่งสำหรับลักษณะการแพ้ทั่วไปนั้นเกิดจากการที่ร่างกายต้องพบกับสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทำให้เกิดอาการแพ้และมีความรุนแรงมากขึ้น

ด้านผู้แต่งร่วมอาวุโสของการวิจัยอีกคน อาลีนา บาเนอร์จี (Aleena Banerji) จากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์เช่นกันระบุว่า การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ามันมีความปลอดภัยต่อคนส่วนใหญ่ในการได้รับวัคซีน mRNA เข็มที่ 2

"หลังเกิดปฏิกิริยาแพ้จากเข็มแรกแล้ว ผู้เชี่ยวชาญภูมิแพ้อาจจะมีประโยชน์ในการช่วยเหลือสำหรับการประเมินความเสี่ยงและประโยชน์และให้การช่วยเหลือในการฉีดให้ภูมิคุ้มกันได้อย่างปลอดภัยและครบถ้วน" บาเนอร์จี กล่าวผ่านรายงานของ Science daily

รอยเตอร์รายงานว่า ในการวิจัยพบว่าทีมได้ทำการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มผู้ใหญ่ 189 คนที่ได้รับวัคซีน mRNA ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทค หรือวัคซีนโมเดอร์นา 1 เข็มแรกและมีอาการแพ้ปรากฏหลังการฉีดไม่ว่าจะเป็นหน้าแดง มึนศีรษะ วิงเวียน หายใจถี่ อาการเป็นเหน็บ อาการเจ็บคอและแน่นภายในคอที่อาจจะเกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุ (throat tightness) ลมพิษ หรือกระทั่งหายใจถี่และมีเสียงออกมา

Science daily ชี้ว่าการวิจัยชิ้นนี้ต้องการทราบว่า จะมีความปลอดภัยหรือไม่ที่จะให้ผู้ที่เคยรับวัคซีนไฟเซอร์-ไบออนเทคและวัคซีนโมเดอร์นาและมีอาการแพ้เกิดขึ้นจะสามารถรับวัคซีนเข็มที่ 2 ได้ต่ออย่างปลอดภัย โดยทีมวิจัยนี้เป็นความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ (Vanderbilt University Medical Center) ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยเซาท์เวสต์ (University of Texas Southwestern Medical Center) คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเยล (Yale School of Medicine)

พบว่าจากทั้งหมดของ 189 คนของการศึกษา จำนวนส่วนใหญ่หรือ 84% (159 คน) เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 ต่อโดย 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้รับยาต้านภูมิแพ้ก่อนเข้าฉีดเข็มที่ 2 รอยเตอร์รายงานว่า คนทั้งหมดมีความทนทานโดยไม่มีผลข้างเคียงปรากฏหลังเข็มที่ 2 รวมไปถึงกลุ่มคนที่มีปฏิกิริยาเกิดภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลันที่เรียกว่า (anaphylactic reactions)

ทีมวิจัยกล่าวว่า อาการแพ้ใดๆ ที่อาจขึ้นหลังจากได้รับเข็มที่ 2 แล้วนั้นพบว่าจะอยู่ในระดับต่ำและสามารถจัดการได้ง่าย

รอยเตอร์รายงานว่า มีการบันทึกถึงการแพ้ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน mRNA นั้นสูงถึง 2% ซึ่งผู้นำการวิจัย แมทธิว เอส.ครานต์ซ์ (Matthew S.Krantz) จากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ กล่าวย้ำว่า "การได้รับวัคซีนครบ 2 โดสนั้นมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสเดลตา และทางเราสงสัยว่าอาจจะมีคนเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดเข็มที่ 2 เนื่องมาจากเกิดอาการแพ้"

ทั้งนี้ การวิจัย "Second COVID-19 mRNA vaccine dose found safe following allergic reactions to first dose" ของโรงพยาบาลกลางสหรัฐฯ นี้ได้รับเงินวิจัยสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ NIH (the National Institutes of Health) และโรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์
#3624




หลังจากที่เน็ตไอดอลชื่อดัง "พิมฐา" หรือ "พิม ฐานิดามานะเลิศเรืองกุล" โดนโซเชียลถล่มเละ เหตุมาจากพื้นที่สีแดง แต่ไม่กักตัว ตระเวนไปทั่ว ต่อมาเจ้าตัวพบว่าติดโควิด-19 ทำเอาวุ่นไปทั้งเชียงใหม่ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) เจ้าตัวก็รักษาอาการโควิดจนหายเป็นปกติแล้ว

พิมฐาได้โพสต์ไอจี ว่าได้เดินทางไปมอบเงินเยียวยา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด จากกระทำของเธอและเพื่อนสนิท "แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์" ที่ไม่สามารถเดินทางมาได้ด้วยตนเองเรียบร้อยแล้ว

โดยสาวพิมฐาและครอบครัว ได้แสดงความรับผิดชอบ ที่ทำให้นักศึกษาหลายคน ต้องปรับเปลี่ยนการเรียน เป็นระบบออนไลน์ ด้วยการเข้าพบสมาคมนักศึกษา เพื่อขอโทษและมอบทุนการศึกษาให้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หวังช่วยบรรเทาความเดือนร้อนไม่มากก็น้อย

"วันนี้พิมได้มีโอกาสเข้าไปพบประธานสมาคมนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่หลังจากได้ทราบข่าวของนักศึกษาหลายท่านที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid 19 และต้องเข้าเรียนในระบบออนไลน์

พิมและครอบครัวรวมถึง ต้องขอขอบคุณทางฝ่ายตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่ยอมรับและเข้าใจ และให้โอกาสเราในการร่วมสมทบทุนบริจาคโครงการทุนการศึกษารวม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดสรรเป็นทุนปี การศึกษา2564

และเราทราบดีว่าเราไม่สามารถทดแทนและเยียวยาผลกระทบในวงกว้างได้ทั้งหมดแต่หวังว่าจะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่นักศึกษาหลายท่านต้องเผชิญอยู่ไม่มากก็น้อย ขอบพระคุณค่ะ "

ส่วนร้านอาหารและค่าเฟ่ ที่ได้รับผลกระทบ ตามรายชื่อที่ปรากฎอยู่ในไทม์ไลน์ เจ้าตัวก็ได้เดินทางไปขอโทษ พร้อมมอบเงินเยียวยาให้ครบหมดทุกร้าน

"หลังจากที่พิมได้รักษาตัวจนหายจากโรค covid19 และได้กักตัวตามที่แพทย์แนะนำจนครบแล้ว พิมและครอบครัวได้แวะไปตามร้านต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบและมอบค่าเยียวยาที่พิมและ @bank_thiti ตั้งใจมอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากพวกเราในครั้งนี้

เราทราบดีว่าไม่อาจเยียวยาในความเสียหายทั้งหมดได้ แต่เราหวังว่าจะช่วยเยียวยาได้ไม่มากก็น้อย

พิมอยากขอบคุณร้านค้าทุกๆ ร้านที่เข้าใจและยอมรับการขอโทษในความผิดพลาดครั้งนี้ของเรา ทางพิมและแบงค์อยากขอโทษอีกครั้ง และพวกเราขอน้อมรับคำติทั้งหมด และสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกค่ะ "

ซึ่งงานนี้หนึ่งในร้านอาหารได้รับการเยียวยา ก็ได้ออกกล่าวถึงพิมฐาและแบงค์ โดยบอกว่าคิดอยู่นาน ว่าจะออกมาโพสต์ดีไหม แต่ตั้งแต่ที่ทราบว่าติดโควิด ครอบครัวของพิมฐา ก็ได้ติดต่อมาช่วยเหลือทุกทาง และขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน ไม่ได้ขอบคุณทั้งสองคนในฐานะคนดัง แต่อยากขอบคุณในฐานะผู้ป่วยรายที่ 4254 ที่พยายามแสดงความรับผิดชอบ เป็นครั้งแรกที่มีคนมองเห็นและได้ยินเสียงเล็กๆ จำนวนเงินที่มอบให้ทางร้านและพนักงานทุกคน มีค่ามาก เหมือนเป็นการต่อลมหายใจ
#3625



อินเทลเปิดแผนกลยุทธ์นวัตกรรมด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ โชว์ชัด "RibbonFET" สถาปัตยกรรมทรานซิสเตอร์ตัวแรกของอินเทลในรอบทศวรรษ ยังมี "PowerVia" การจ่ายพลังงานแบบ backside power delivery รายแรกของอุตสาหกรรม มั่นใจคงตำแหน่งผู้นำต่อเนื่องด้านนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงแบบ 3 มิติ

นายแพท เกลซิงเกอร์ ประธานกรรมการบริหารของอินเทล กล่าวว่าจากความเป็นผู้นำของอินเทลในด้านบรรจุภัณฑ์ บริษัทกำลังเร่งแผนงานนวัตกรรมเพื่อให้แน่ใจว่า ภายในปีพ.ศ. 2568 อินเทลจะยังคงเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการประมวลผล

"นอกจากนี้ เราได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมที่ไม่มีใครเทียบได้ในการนำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีตั้งแต่ทรานซิสเตอร์ไปจนถึงระดับของระบบ เราจะพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการดำเนินงานตามหลักกฎของมัวร์ (Moore's Law) และเดินหน้าบนเส้นทางที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยพลังของซิลิคอน"

อินเทลมองว่าตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 อุตสาหกรรมการผลิตมีการยอมรับความจริงที่การตั้งชื่อกระบวนการผลิตชิปแบบนาโนเมตรนั้นไม่สามารถใช้กับหน่วยวัดแบบ Gate Length ได้ วันนี้ อินเทลจึงประกาศโครงสร้างสำหรับกระบวนการผลิตชิปรูปแบบใหม่ โดยสร้างกรอบในการทำงานที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ เพื่อลูกค้าจะได้มีมุมมองที่ถูกต้องมากขึ้นเกี่ยวกับกระบวนการผลิตชิปที่ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม สิ่งนี้คือพื้นฐานสำคัญในการเปิดตัว Intel Foundry Services (IFS)

ซีอีโออินเทลย้ำว่านวัตกรรมที่ถูกเปิดตัวในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยปรับแผนกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ของอินเทลแล้ว ยังมีความสำคัญต่อลูกค้าของบริษัทอีกด้วย ทั้งนี้ IFS ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ อินเทลจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้ประกาศเปิดตัวลูกค้ารายใหญ่สองเจ้าแรกของบริษัท พร้อมประกาศว่า IFS นั้นเริ่มต้นออกสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อินเทลยังประกาศโหนดใหม่ และนวัตกรรมที่เปิดใช้งานสำหรับโหนดแต่ละชนิด หนึ่งในนั้นคือ Intel 7 ที่จะมอบประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นประมาณ 10%-15% ต่อวัตต์ เมื่อเทียบกับ Intel 10nm SuperFin อ้างอิงจากการปรับแต่งทรานซิสเตอร์ FinFET โดย Intel 7 จะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Alder Lake สำหรับลูกค้าในปี พ.ศ. 2564 และ Sapphire Rapids สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2565

ขณะเดียวกัน Intel 4 จะใช้เทคโนโลยีกระบวนการพิมพ์ด้วยการฉายแสงอัลตราไวโอเลต (Extreme Ultraviolet Lithography) ในการพิมพ์รูปแบบขนาดเล็กด้วยแสงความยาวคลื่นสั้นพิเศษ โดย Intel 4 ซึ่งมากับประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นประมาณ 20% ต่อวัตต์ พร้อมด้วยการปรับปรุงภายในพื้นที่ จะพร้อมผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2565 เพื่อเตรียมจัดส่งในปี พ.ศ. 2566 จะถูกรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น Meteor Lake สำหรับลูกค้า และ Granite Rapids สำหรับดาต้าเซ็นเตอร

ดร. แอน เคลเลอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี บริษัท อินเทล
ดร. แอน เคลเลอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี บริษัท อินเทล

ด้าน Intel 3 จะใช้ประโยชน์เพิ่มเติมจากการเพิ่มประสิทธิภาพ FinFET และเพิ่ม EUV ที่มีมากกว่า Intel 4 เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นประมาณ 18% ต่อวัตต์ พร้อมกับการปรับปรุงพื้นที่เพิ่มเติม โดย Intel 3 จะพร้อมผลิตในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2566

รวมถึง Intel 20A ที่เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคอังสตรอม (Angstrom) ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้า 2 ประเภท ได้แก่ RibbonFET และ PowerVia โดย RibbonFET เป็นการนำทรานซิสเตอร์ Gate All Around ของ Intel ไปใช้ ซึ่งจะเป็นสถาปัตยกรรมทรานซิสเตอร์ใหม่ตัวแรกของอินเทล นับตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มคิดค้น FinFET ในปี พ.ศ. 2554 ซึ่งเทคโนโลยีนี้ช่วยให้การเปลี่ยนทรานซิสเตอร์ทำได้เร็วขึ้น โดยให้กระแส drive current เท่าเดิมแต่ใช้พลังงานน้อยลง ส่วน PowerVia โดยอินเทล เป็นการจ่ายพลังงานแบบ backside power delivery รายแรกของอุตสาหกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพการส่งสัญญาณโดยการขจัดความจำเป็นในการกำหนดเส้นทางพลังงานที่ด้านหน้าแผ่นวงจรเวเฟอร์ โดยคาดว่า Intel 20A จะได้รับความนิยมสูงขึ้นในปี พศ. 2567

"บริษัทฯ ยังรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสในการเป็นพันธมิตรกับ Qualcomm ที่จะเริ่มใช้เทคโนโลยี Intel 20A ด้วยเช่นกัน" อินเทลระบุ

สำหรับปีพ.ศ. 2568 และปีต่อๆ ไป อินเทลย้ำว่านอกเหนือจาก Intel 20A แล้ว Intel 18A ได้อยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับช่วงต้นปีพ.ศ. 2568 พร้อมกับการปรับแต่ง RibbonFET ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของทรานซิสเตอร์ให้เพิ่มมากขึ้น โดยอินเทลกำลังเตรียมพร้อมในการกำหนด สร้าง และปรับใช้เครื่องมือ EUV รุ่นต่อไปที่เรียกว่า High Numerical Aperture EUV และคาดว่าจะได้รับเครื่องมือการผลิตเครื่องแรกในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ อินเทลกำลังเป็นพันธมิตรอย่างใกล้ชิดกับ ASML เพื่อรับรองความสำเร็จของการพัฒนาอุตสาหกรรมดังกล่าวที่นอกเหนือไปจาก EUV รุ่นปัจจุบัน

ดร. แอน เคลเลอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี กล่าวว่าอินเทลมีประวัติอันยาวนานในด้านนวัตกรรมกระบวนการขั้นพื้นฐานต่างๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทได้เป็นผู้ริเริ่มการเปลี่ยนไปใช้ สเตรน ซิลิกอน (strained silicon) ขนาด 90 นาโนเมตร พร้อมด้วยเทคโนโลยี high-k metal gates ขนาด 45 นาโนเมตร และ FinFET ขนาด 22 นาโนเมตร

"นี่ถือเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญด้านเทคโนโลยีการประมวลผลจาก Intel 20A ที่มาพร้อมกับ 2 นวัตกรรมสุดล้ำอย่าง RibbonFET และ PowerVia"

AWS ลูกค้ารายแรก

นอกจากชิป อินเทลย้ำว่าบรรจุภัณฑ์ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากขึ้นในการตระหนักถึงประโยชน์ของกฎของมัวร์ (Moore's Law) ด้วยกลยุทธ์ IDM 2.0 ใหม่ของอินเทล อินเทลประกาศว่า Amazon Web Services (AWS) จะเป็นลูกค้ารายแรกที่ใช้โซลูชันบรรจุภัณฑ์ของ IFS พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกด้านแผนกลยุทธ์ของการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงและอุตสาหกรรมชั้นนำ

ที่สุดแล้ว อินเทลย้ำว่ามีแผนนำเทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยการฉายแสงอัลตราไวโอเลต (EUV) รุ่นใหม่มาใช้ โดยใช้ชื่อเรียกว่า High Numerical Aperture (High NA) EUV ทั้งนี้ อินเทลนับเป็นเจ้าแรกในอุตสาหกรรมที่จะได้รับเครื่องมือการผลิต High NA EUV ด้วย.
#3626



เมื่อเร็วๆนี้บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ได้เปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงาน G-Cell โดยใช้เทคโนโลยี SemiSolid แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (South East Asia) ด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 30 MWh (เมกะวัตต์ชั่วโมง) ต่อปี ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง

โดยโรงงานแบตเตอรี่แห่งนี้ ถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทย และแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียฯ กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ชั่วโมง(MW) ด้วยทุน 1,100 ล้านบาท และในอนาคตจะขยายขึ้นเป็น 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง(GWh) ต่อปี ตามเป้าหมายของ GPSC ที่จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน อยู่ที่ 8,000 เมกะวัตต์ 

ภายในปี 2573 ตามนโยบายของบริษัทแม่ คือ ปตท. ซึ่งคาดหวังว่า โรงงานแห่งนี้ จะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมไทยมุ่งสู่พลังงานสะอาด และอุตสาหกรรมใหม่ในอนาคต และสนับสนุนการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ตามเป้าหมายของรัฐบาล
#3627
แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้ 6 วิธีเพิ่มจำนวนคนเห็นโพสต์แบบไม่ต้องเสียเงินhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/onlinesellersmustknow6waystoincreasethenumberofpeoplewhoseepostswithoutpaying

#3628



นายสุรช ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY ได้รับแจ้งจากบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด (ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทถือหุ้นทางตรง และ ทางอ้อมรวมเป็นจำนวน 35% ว่า เตรียมรับเงินค่าชดเชยจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นเงินกว่า 1.6 พันล้านบาทภายในเดือนส.ค.นี้ โดยทั้งสองฝ่ายได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงและยื่นต่อสำนักบังคับคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครองเรียบร้อยแล้ว

ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชำระเงิน 1,654,604,627.54 บาท ให้แก่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปี นับจากวันฟ้องจนถึง 10 เม.ย. 2564 ต่อจากนั้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็น 3% บวกเงินเพิ่มอีก 2% จนถึงวันชำระเสร็จ โดยให้ชำระเสร็จภายใน 60 วัน ตามหนังสือที่อ้างถึงนั้น


โดยที่ประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากได้มีมติชำระหนี้กรณีสัญญาจ้างบริการระบบเกมสลากให้แก่ ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค ดังนี้ 1. ชำระหนี้จำนวน 1,654,604,627.54 บาท ภายในเดือนสิงหาคม 2564

2. ชำระดอกเบี้ยจำนวน 444,745,338.27 บาท ภายในปีงบประมาณ 2565 โดยชำระงวดแรกภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 งวดที่สองภายในวันที่ 4 มกราคม 2565 งวดที่สามภายในวันที่ 1 เมษายน 2565 และงวดที่สี่ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 โดยแบ่งจ่ายงวดละเท่า ๆ กัน
#3629



นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน เปิดเผยว่า ธปท. ได้ออกแนวปฏิบัติการใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการให้บริการทางการเงิน เพื่อให้ผู้ให้บริการทางการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ใช้เป็นแนวทางในการนำเทคโนโลยี  Blockchain ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าผู้ใช้บริการ และองค์กรธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้มีความปลอดภัยและความเชื่อมั่นแก่ประชาชนผู้ใช้บริการทางการเงินในโลกการเงินยุคดิจิทัลในอนาคต

เทคโนโลยี Blockchain มีศักยภาพในการพัฒนาภาคการเงินเนื่องจากมีคุณสมบัติสำคัญเรื่องการกระจายข้อมูลจัดเก็บ การเข้ารหัสข้อมูล การเชื่อมต่อกันโดยอ้างอิงจากข้อมูลก่อนหน้า ทำให้การบริหารจัดการข้อมูลในเครือข่าย Blockchain มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ข้อมูลใน Blockchain ถูกปลอมแปลงแก้ไขได้ยาก และช่วยลดขั้นตอนการทำงาน ส่งผลให้ต้นทุนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่ำลง ทำให้ประสิทธิภาพการดำเนินงานสูงขึ้น และสามารถนำไปพัฒนาบริการทางการเงินได้หลากหลาย

ซึ่งในปัจจุบันภาคการเงินของไทยมีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้มากขึ้น เช่น การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลธุรกรรมการเงิน การโอนเงินระหว่างประเทศ การออกหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินต่าง ๆ


แนวปฏิบัติฉบับนี้เป็นกรอบหลักการในการนำเทคโนโลยี Blockchain มาพัฒนานวัตกรรมทางการเงินควบคู่ไปกับการดูแลความเสี่ยงอย่างรัดกุม โดยผู้ให้บริการทางการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. สามารถนำมาปรับใช้กับบริการทางการเงินที่มีการประยุกต์ใช้ Blockchain โดยเฉพาะในรูปแบบ Private Blockchain Network โดยเนื้อหาของแนวปฏิบัติ Blockchain ประกอบด้วยสาระสำคัญ 4 ส่วน ได้แก่ 


1) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในทางธุรกิจ
2) การกำกับดูแลการใช้เทคโนโลยี Blockchain
3) การบริหารจัดการความเสี่ยงด้าน IT
4) การบริหารความเสี่ยงทางกฎหมาย
#3630



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ว่านพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐ ( เอ็นไอเอช ) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ที่จำนวนผู้ป่วยยืนยันรายวันกลับมา "เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด" ซึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ "เดลตา" ว่า "เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น" เมื่อพบว่า ผู้ติดเชื้อในระยะหลังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ขณะเดียวกัน นพ.เฟาซีกล่าวถึงการปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติ เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ ว่าหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาทบทวน "อย่างจริงจัง" หลังเทศบาลหลายแห่ง รวมถึงเทศบาลนครลอสแอนเจลิส มีคำสั่งให้ประชาชนกลับมาสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วหรือไม่

เกี่ยวกับประเด็นการฉีดวัคซีนเข็มที่สาม หรือ "บูสเตอร์" เพื่อกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย นพ.เฟาซีกล่าวว่า "ยังคงเป็นเรื่องที่กำลังศึกษา" แต่หากได้ข้อสรุปชัดเจนกว่านี้ บูสเตอร์ "มีความจำเป็นจริง" กลุ่มที่สมควรได้รับวัคซีนเข็มที่สามก่อน ควรรวมถึง ผู้ป่วยที่เข้ารับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในกระบวนการเคมีบำบัด ผู้ป่วยโรคภูมิต้านทานเนื้อเยื่อตัวเอง และผู้ที่ต้องรับประทานยากดภูมิต้านทาน เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอและไม่เป็นปกติ
#3632


เปิดหมดทุกวีรกรรมความเจ้าชู้ สมรักษ์ จากปากคุณอ้อย ภรรยาที่เผยว่ามีคนมาจ้างหย่าให้ราคาถึง 2 ล้าน พร้อมแนะวิธีเด็ดของเมียหลวง ที่กำราบเหล่าเมียน้อยให้ยอมถอยห่างครอบครัว

นับเป็นอีกคู่รักที่มีความเข้าใจ ให้อภัยซึ่งกันและกันเพื่อรักษาคำว่า ครอบครัวที่อบอุ่น เพื่อลูกๆ สำหรับ บาส สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตนักมวยทีมชาติไทย ฮีโร่เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 1996 ที่จูงมือภรรยาคนสวย อ้อย เสาวนีย์ คำสิงห์ มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ Club Friday Show ผลิตโดย CHANGE2561 ที่คุณอ้อย ได้เปิดเรื่องราวชีวิตอย่างหมดเปลือกถ้าวีรกรรมความเจ้าชู้ของสามี ที่มีเข้ามากวนใจอยู่นับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็สามารถผ่านมาได้ด้วยสติและความรักที่มีต่อลูกๆ พร้อมยังเผยถึงขนาดที่ว่ามีคนมาจ้างให้หย่าถึงสองล้าน พร้อมแนะวิธีเด็ดของเมียหลวง ที่กำราบเหล่าเมียน้อยให้ยอมถอยห่างครอบครัว



เริ่มต้นคือไปเจอกันได้ยังไงเอ่ย แล้วความใจกล้าตอนนั้นไปจีบอย่างไร
สมรักษ์ : คือถ้าผมเล่าเดี๋ยวจะหาว่าผมโม้ (หัวเราะ) คือ ผมเป็นนักกีฬาเขต 4 จังหวัดขอนแก่น แล้วคุณอ้อย เขาก็เป็นนักกีฬาเขต 4 ขอนแก่นเหมือนกัน ส่วนผมชกมวย

คุณอ้อย : ตอนนั้นเป็นนักกีฬาบาสเกต.ค่ะ
สมรักษ์ : ตอนนั้นเราก็นั่งรถบัสคันเดียวกันเพื่อที่จะไปแข่งที่ อยุธยา แล้วเพื่อนกลุ่มนักมวยของผมก็บอกว่าคนนั้นหน้าตาดี (บอกว่าคุณอ้อยหน้าตาดี) เขาฟังซาวด์เบาท์อยู่ใครกล้าไปยืมบ้างก็ไม่มีใครกล้าเลย แล้วผมก็อาสาออกตัวว่าจะไปยืมให้(ตอนนั้นผมดังอยู่) เพราะว่าต่อยมวยไทยพิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญก็ดังอยู่ แบบผมชกจนไม่มีคู่ชกเลย แต่ตอนที่เราบอกว่าเราจะไปยืมซาวด์เบาท์ของเขาให้คือ เรายังไม่เห็นหน้าตาเขานะครับ เห็นแต่ด้านหลังแต่ก็ใช้ได้แล้วแหละ (หัวเราะ) เราก็เดินไปสะกิดหลังเขาว่าขอยืมซาวด์เบาท์หน่อย แล้วเขาก็หันมาแบบเหล่สายตามองเราด้วยหางตา

คุณอ้อย : เราก็คิดว่าเธอเป็นใครมายืมของฉัน แล้วเราก็หันไปแล้วบอกว่าไม่ให้
สมรักษ์ : พอเขาไม่ให้เราก็เดินกลับมาบอกเพื่อนว่าเขาไม่ให้ แต่เราก็ไม่ได้คิดว่าเราเสียหน้าหรืออะไรนะครับ เพราะว่าเราเป็นคนมองโลกในแง่ดีเพราะว่าคนเราต้องมีน้ำใจต่อกันเข้าใจไหม (หัวเราะ)

คุณอ้อย : พอจากตรงรถทัวร์จบแล้วก็ไปพักที่โรงแรมเดียวกัน แต่อยู่คนละตึก ซึ่งเราจะเห็นเขาทุกเช้าผ่านหน้าต่างเพราะว่าเขาจะกระโดดเชือกเพื่อรถน้ำหนักเราก็จำได้ว่าคนนี้นิที่มาสะกิดยืมซาวด์เบาท์เรา เราก็มองธรรมดา แล้วมีวันหนึ่งเขาจะเดินไปทานข้าวแล้วเขาเห็นเรานั่งอยู่ เขาก็ถามว่ากินข้าวหรือเปล่า ไปทานข้าวกันไหม เราก็ส่ายหน้าไม่ไป ไปเถอะเราก็บอกเขาไปแบบนี้ แล้วพอเขาเดินเลยเราไปนิดนึงเราก็เรียกเขาเดี๋ยวๆเธอชื่ออะไร ... เราก็เลยถามแบบนี้



สมรักษ์ : แล้วผมก็หันมาช้าๆแล้วบอกกับเขาว่าเราชื่อ บาส แล้วผมก็เดินไปเลย
คุณอ้อย : เราก็แบบว่าช็อกเลยพอได้ยินชื่อของเขาว่าเขาชื่อ บาส เพราะว่าเรามีความใฝ่ฝันว่าอยากมีแฟนชื่อ บาส ค่ะ เพราะว่าเราชอบเล่น บาส ถึงขนาดที่เรามีความคิดว่าถ้าเราไม่มีแฟนชื่อนี้เราจะไม่มีแฟนเลย พอเราหายช็อกพอรู้ชื่อเขาเราก็รีบตะโกนเรียกเขาเลยว่าเธอๆเดี๋ยวเราไปด้วยแล้วเราก็วิ่งลงจากอาคารแล้วก็ไปทานข้าวกับเขาเลย แล้วเวลาที่ไปทานข้าวเราก็นั่งมองหน้าเขาอย่างเดียวเลยค่ะ คือ ตอนนั้นเหมือนแบบจากซาตานเป็นเทพบุตรเลยค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี คิดแค่ว่าเราเจอแล้ว เราก็นั่งจ้องเขาแล้วเขาก็โม้ไปเรื่อย แล้วหลังจากนั้นเราก็เป็นฝ่ายที่ไปจีบเขาเลยค่ะ

เมื่อความรักทุกอย่างลงตัว แต่ก็ต้องมีเรื่องให้เสียใจเพราะว่าต้องสูญเสียลูกคนแรกไปช่วงที่ คุณสมรักษ์ ไปแข่งกีฬาโอลิมปิก
คุณอ้อย : คุณหมอก็มาแจ้งเราว่า คุณอ้อยๆลูกเสียแล้วนะ ลูกเสียในครรภ์ซึ่งก่อนหน้าที่เขาจะเสียเราก็ไม่ได้มีอาการอะไรเลยนะคะ เพราะก่อนหน้านี้ก็เพิ่งไปตรวจคุณหมอก็ยังบอกว่าหัวใจของเขายังเต้นปกติแล้วก็มาเสีย พอรู้ว่าลูกไม่ได้อยู่กับเราแล้วตอนนั้นเราเสียใจมาก แล้วเขาก็ไม่อยู่ด้วยเราก็ร้องไห้ คุณหมอก็โทรไปบอกเขาที่อเมริกา
สมรักษ์ : พอผมทราบเรื่องก็ร้องไห้เดินไปร้องไห้ในห้องน้ำเลยทีมมวยเขาก็มาปลอบใจเราว่ากลับไหม แล้วผมก็เลยคิดว่าเออ.... เราต้องเอาเหรียญทองโอลิมปิกมาให้ได้เพราะว่าลูกเนี่ยเอาชีวิตแลกไปแล้ว เพราะถึงเรากลับมาลูกเราก็ไม่ฟื้น ต้องซ้อมเอาเหรียญทองแล้วพอได้เหรียญทองแล้วเราค่อยกลับมาดูแลเขา

เป็นวิธีคิดที่เอาความเสียใจมาเป็นพลังบวกให้ได้ แล้วในมุมของคุณอ้อย ล่ะ
คุณอ้อย : ในมุมของเราคือตอนนั้นเราอยู่คนเดียวเราจะทำอย่างไร เราก็น้อยใจ ไม่เข้าใจเพราะว่าเหตุการณ์อะไรต่างๆกว่าเราจะมาเจอเหตุการณ์นี้มันผ่านมาเยอะ อย่างก่อนหน้านี้เขาไปบาร์เซโลนา เราก็รถยนตร์หายไปคันหนึ่งเหมือนว่ามันเป็นทุขลาภแล้วค่อยมาได้เหรียญทองแต่ครั้งนี้มันเอาชีวิตแลกเลย

ตอนนั้นที่เราไป คุณสมรักษ์ คิดว่าเราน่าจะเป็นผู้ชนะไหม
สมรักษ์ : การไปโอลิมปิกครั้งนั้นคือ ผมมั่นใจมากที่จะได้เหรียญเพราะว่าก่อนที่ผมจะได้คือ สั่งเสื้อไว้ก่อนเลยสั่งสกรีนเสื้อไว้เลย 100 ตัว แล้วบอกภรรยาว่าได้เหรียญทองกลับมาแน่นอน อยากได้อะไรไปดูไว้ อยากได้บ้าน อยากได้รถอะไรไปดูไว้
คุณอ้อย : เขาเคยโดนซื้อตัวจะให้ไปชกแชมป์โลก สากลอาชีพ ซื้อตัวเท่าไหร่เขาก็ไม่ไปเพราะเขาตั้งเป้าว่าเหรียญทองมวย โอลิมปิก ยังไม่มีใครได้เขาต้องเอามาให้ได้ ซึ่งเขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆค่ะ เพราะเขาเป็นคนมุ่งมั่น และเขาตั้งใจทำเพื่อประเทศไทย



ซึ่งในวันนั้น คุณสมรักษ์ ก็ทำให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุขและเป็นความสุขของคนไทยจริงๆในรอบที่ชกในวันนั้น ในความเสียใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งสูญเสียลูกไปในวันที่เขาชกตอนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เราเชียร์อยู่ที่นี่หรือว่าตามไปเชียร์ที่โน้น

คุณอ้อย : ก็เลยมีโอกาสเขาให้ไปเชียร์ เหมือนเขาให้รางวัลปลอบขวัญ ปลอบใจเราให้ไปเชียร์ที่อเมริกาพอได้เหรียญเลยได้คุยกันว่า พี่ได้เหรียญทอง พี่มีเงินแล้วนะ เขาบอกว่าถ้ากลับไปถึงเมืองไทยเขาจะจัดงานแต่งงานให้



แล้วพอมีชื่อเสียงก็จะมีคนเข้ามาถึงขนาดที่ว่ามีคนมาจ้างหย่า 2 ล้าน เขากล้ามาจ้างหย่าเลยเหรอ
คุณอ้อย : เขาน่าจะจ้างคุณสมรักษ์ เราก็บอกว่า 2 ล้านบาทไม่พอหรอกเพราะมูลค่าเขามากกว่านั้น เพราะถ้าคุณเอาเขาไปคุณคุ้ม เราก็บอกเขาไปว่าสัก 10 ล้านบาทได้อยู่นะ เพราะตอนนั้นน่าจะประมาณปี 40 ได้ค่ะ

ฟังดูแล้วเวลาที่เกิดเรื่องแบบนี้ คุณอ้อย ดูแบบมีสติมากเลยนะ เพราะว่าที่จะโต้ตอบให้อีกฝ่ายหงายหน้าไป
คุณอ้อย : ใช่ค่ะ เพราะว่าเขาพูดเยอะค่ะ พวกผู้หญิงพวกนั้นมันขึ้นอยู่กับผู้ชาย ถ้าเราถามว่าคุณอย่างไร ถ้าเขายังเลือกเราอยู่เราจะมีความมั่นใจที่จะไปตอบโต้เพราะว่าเราอย่าไปคิดเลยว่าเราจะเลิกกัน แต่ถ้าเราคิดว่าจะเลิกแล้วเราจะไปอยู่คนเดียวเราเลิก แต่ถ้าเลิกกันแล้วเราคิดอยากจะแต่งงานใหม่ เราอย่าเลิกดีกว่าเพราะว่าเราไม่รู้ว่าผู้ชายที่เราจะไปเจออีกเขาจะดีหรือไม่ดีอะไรอย่างนี้ค่ะ แล้วอีกอย่างเขาเป็นพ่อของลูกเรามองว่าให้เขาอยู่กับลูกเรา คือ เป็นพ่อของลูกเรามันอบอุ่นดีอยู่แล้วเราไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรเลย เพียงแต่ว่าเวลาที่เขาออกนอกลู่นอกทางเราก็ตบๆเขามาเพราะว่ามันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์อยู่แล้ว แล้วเราก็บอกเขาว่าต่อให้เลิกกันยังไง หรือต่อให้เธอย้ายเอาของออกไปจากบ้านอะไรที่เป็นสมบัติของเธอมันมีอยู่ชิ้นเดียวคือ ทะเบียนสมรส แล้อยากจะไปมีเมียใหม่ไปมีเลย แต่ทะเบียนสมรสฉันกอดไว้มันคือ ความสะใจ ของคนที่เป็นเมียหลวง เพราะคนที่เป็นเมียน้อยมันอยากได้อย่างเดียวเลยคือ ทะเบียนสมรส
สมรักษ์ : เป็นครอบครัวนักกีฬาคือ ต้องรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย (หัวเราะ) ฟังไว้นะครับ อันนี้หลายครอบครัวบางทีมีปัญหานี่เอาอย่างภรรยาของผม รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ดีมากคือครอบครัวอยู่ยาว

คือผู้หญิงกลัวที่สุดคือเรื่องการนอกใจ แต่พอมันเกิดขึ้นแบบนี้มันก็ต้องชั่งน้ำหนักว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างของผุ้ชายคนนี้ที่ยังน่ารักมากพอให้เราทน
คุณอ้อย : ใช่ค่ะ เขาอาจจะเป็นสามีที่ดีไม่ได้ แต่เขาเป็นพ่อที่ดีของลูกมากๆ ถามว่าตอนนี้หยุดเจ้าชู้หรือยัง ตอนนี้ เบสบอกว่าแม่ไม่ต้องเดี๋ยว เบส จัดการเอง

สมรักษ์ : ผมก็อยู่ของผมเฉยๆผมก็ไม่เคยปิดบังว่าผมมีครอบครัว
คุณอ้อย : แต่จริงๆนะคะ คือต่อให้ตอนนั้นที่เขาไม่หยุด ผู้หญิงทุกคนก็อยากเป็นหนึ่งคนที่เป็นเมียน้อย ก็คือ อยากเป็นเมียหลวงถูกไหมคะ ตอนนั้นต้องบอกว่าทะเบียนสมรสอันเดียวเลยค่ะ คือมันจะกำราบพวกคนพวกนี้ไปเพราะเราอย่าหย่าต่อให้เขาอยากเลิกกับเราแค่ไหนเราก็อย่าหย่าเพราะมันคือว่า สะใจ ค่ะ

จริงๆแล้วเรื่องสถานบันครอบครัวมันก็จะมีเรื่องอันนี้อยู่เยอะมากในขณะที่ คุณอ้อย เองก็คือคนหนึ่งเลยที่ต้องใช้ความหนักแน่นเยอะมาก และต้องใช้สติเยอะมาก อยากให้เป็นข้อคิดกับหลายๆคนที่อาจจะดูอยู่แล้วกำลังมีปัญหาสามีออกนอกลู่นอกทางแล้วเราต้องพยายามดึงกลับมาให้อยู่ในเส้นทางเราต้องตั้งสติยังไงบ้าง



คุณอ้อย : เราก็ฟูมฟายเหมือนกันนะคะ เราก็สาดเสียเทเสียเหมือนกันแต่เรากับเขาก็มาคุยกัน ถ้าเขายังอยู่กับเราหมายถึงว่า เขายังเลือกอยู่กับเราเราก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว เราก็ดึงเขาให้กลับมา แต่กลับมาในที่นี่คือกลับมาหมดเลยนะคะ เพราะทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเราแล้ว พอจะดึงเขากลับมาเนี่ยอันดับแรกเราต้องตั้งสติแล้วก็อย่างี่เง่า แล้วก็อย่าเอาผู้หญิงคนนั้นมาเปรียบเทียบเพราะผู้หญิงพวกนั้นไม่ได้มีค่าอะไรเท่ากับเราเลย แล้วเราก็มองว่าสามีเราต้องการอะไร แล้วเราก็ต้องปฏิบัติกับเขาอย่างไรเพื่อที่จะให้เขากลับมาอยู่กับเรา (แต่เราไม่ได้มีความคิดว่าเขายังอยากอยู่กับเขาไหมนะคะ ในตอนนั้นไม่มีความคิดตรงนั้นเลย ไม่มีคำว่าอยากหรือไม่อยาก แต่ว่ารักลูก) แล้วพอเขากลับมาแล้วพออะไรมันดีขึ้น ความคิดอยากอยู่มันจะมาเอง



ในความเป็นคุณพ่อที่ดีของ คุณบาส เขาเป็นคุณพ่อที่ดีแบบไหนกับลูกๆบ้าง
สมรักษ์ : ครอบครัวของผมอบอุ่นอยู่แล้ว ครอบครัวอบอุ่นคือ ป้องกันได้ทุกอย่างนะครับ เพราะว่าการเลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กจนโตผมก็ใส่ใจเต็มที่แล้วถือว่าอบอุ่นครอบครัวไม่มีพูดหยาบ ไม่มีทะเลาะกัน เพราะเวลาที่เราทะเลาะกันลูกก็ไม่เคยเห็นมีปัญหาก็เข้าห้องเถียงกันก็จบ
คุณอ้อย : ส่วนคนที่ดุที่สุดในบ้านคือ คุณพ่อค่ะ ลูกจะเชื่อฟังเขามากกว่าค่ะ



มาจนถึงวันนี้ก็น่าจะพูดได้ว่าที่ต้องบอกเลยว่าเป็นคุณพ่อ คุณแม่ที่มีความสุขเหลือเกินเพราะว่าคุณลูกถือว่าประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วมาก แล้วก็คือคนที่ย้อนกลับมาดูแลคุณพ่อคุณแม่อย่างเต็มที่มากๆเลยเช่นกันทั้งน้องเบส และ น้องโบ๊ท ทั้งสองคนเลยรู้สึกยังไงบ้างกับลูกที่เขาสามารถดูแลเราได้

สมรักษ์ : ภูมิใจมากแล้วผมยังเชื่อมั่นว่าเพราะเราทำความดีไว้เยอะ แล้วความดีที่เราทำขอให้ส่งไปให้ลูก เรื่องจริงไม่ได้โม้ เป็นอย่างไรลูกผมตอนนี้ทั้งน่ารัก ทั้งเก่ง ทั้งสวย ตอนนี้ก็ลุ้นเกียรตินิยมอันดับหนึ่งยังเหลืออีก 1 เทอมครับ คือไม่ว่าจะเป็นลูกชาย ลูกสาวนะครับ ถือว่าประสบความสำเร็จมากๆเลยครับ



สามารถชมคลิป ย้อนหลัง ได้ในรายการ CLUB FRIDAY SHOW ผลิตโดย CHANGE2561 ทางยูทูป
#3633

ชาวภูเก็ต และน้องๆ นักกีฬาเทควันโด รอต้อนรับฮีโร่โอลิมปิก 2020 น้องเทนนิส นั่งรถโดยสารสองแถวแบบดั้งเดิม เข้าพักที่โรงแรมโนโวเทล ภูเก็ตซิตี้ โภคีธรา เป็นเวลา 14 วันตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

เวลา 12.00 น.วันที่ 26 ก.ค.ที่หน้าโรงแรมโนโวเทล ภูเก็ตซิตี้ โภคีธรา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นสถานที่พักของ "น้องเทนนิส" หรือ น.ส.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ และคณะในช่วง 14 วัน ตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หลังจากเดินทางกลับมาจากประเทศญี่ปุ่นตามมาตรการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ที่ถนนด้านหน้าและบริเวณล็อบบี้โรงแรม มีพี่น้องชาวภูเก็ต ตลอดจนนักกีฬาเทควันโดทุกรุ่นทุกวัยแต่งชุดเทควันโด รอถ่ายรูปกับน้องเทนนิส และคณะผู้ฝึกสอน ที่เดินทางจากสนามบินโดยรถสองแถวแบบดั้งเดิมของภูเก็ต

มีการเขียนป้ายต้อนรับอย่างอบอุ่น "ขอบคุณพี่เทนนิสและทีมโค้ชเช คุณคือความสุขของทุกคน" โดยมี รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาร่วมถ่ายภาพด้วย
#3634

(26 ก.ค.64) เช ยอง ซอก เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ออกมาเปิดเผยระหว่างเดินทางจากประเทศญี่ปุ่นถึงประเทศไทยแล้วด้วยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน SQ0726 โดยเจ้าตัวจะลงเครื่องที่จังหวัดภูเก็ตพร้อมกับ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ที่จะเข้าร่วมการกักตัว 14 วันในโครงการ "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" 

ทั้งนี้ส่วนหนึ่งระหว่างที่มีการให้สัมภาษณ์ "โค้ชเช" เช ยอง ซอก ได้พูดถึงเรื่องการขอสัญชาติไทยอีกครั้งว่า ถ้าผมมีโอกาสได้สัญชาติไทยผมก็จะทำหน้าที่ของผมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนอะไรครับ ถ้ามีโอกาสได้ก็อยากได้ให้เร็วที่สุด (ยิ้ม)


โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความสำเร็จของนักกีฬาเทควันโดไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ซึ่งผู้ที่มีส่วนสำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ คือ "โค้ชเช" หรือนายชเว ยอง ซอก (Mr. Choi Young Seok) หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ซึ่งได้ช่วยพัฒนากีฬาเทควันโดของไทยให้ได้รับการยอมรับว่า มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก และถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในขณะนี้ โดยมีผลงานสำคัญมากมาย ทั้งการนำทีมนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันในเอเชียนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ และรายการแข่งขันระดับโลกอื่นๆ จนสร้างผลงานโดดเด่นได้รับเหรียญรางวัลอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ได้รับทราบจากการกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ว่า ปัจจุบัน "โค้ชเช" ถือสัญชาติเกาหลีใต้ และได้แสดงความประสงค์ที่จะเปลี่ยนมาเป็นสัญชาติไทย แต่เนื่องจากที่ผ่านมา เอกสารและหลักฐานต่างๆ ซึ่งมีจำนวนมาก อาจยังรวบรวมได้ไม่ครบถ้วน จึงได้ชะลอการยื่นขออย่างเป็นทางการไว้ก่อน แต่ทราบว่าในขณะนี้ได้เตรียมเอกสารไว้จนเกือบครบแล้ว ดังนั้นเมื่อ "โค้ชเช" เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว จะเตรียมยื่นเอกสารพร้อมหลักฐานขอสัญชาติไทยอย่างเป็นทางการ ผ่านทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งต่อให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณาต่อไป.
 
#3635
แจกสติกเกอร์ฟรี!! ด้วย Event Stickers คืออะไร❓ เนื่องจาก Line Creator ไม่สามารถทำสติกเกอร์ให้โหลดฟรีได้ เราจึงมีบริการ Event Stickers ที่จะเข้ามาช่วยให้การแจกสติกเกอร์ฟรีสามารถทำได้ทุกองค์กร โดยที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 รูปแบบ  เพิ่มเพื่อน - การส่งสติกเกอร์วิธีนี้จะต้องทำผ่านไลน์ส่วนบุคคลเท่านั้นนะคะ- โดยแอดมินของ ChatStick จะเป็นผู้ส่งให้ QR / Link 1:1 - ลูกค้าจะได้รับ QR / Link 1:1 ตามจำนวนที่ต้องการแจก- โดยที่ 1 QR / Link สามารถใช้ได้ 1 ครั้ง ไม่สามารถโหลดซ้ำได้- ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการส่งเองหรือให้แอดมิน ChatStick ส่งให้- แจกได้ทุกแฟลตฟอร์ม  One Page - ใช้เพียง 1 QR / Link รับผ่าน Web page- โดยที่ลูกค้าจะต้องทำการซื้อบริการ QR / Link 1:1 จากทาง LINE ก่อน- 1 คนรับได้ 1 ครั้ง ไม่สามารถกดรับซ้ำได้- ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าต้องการส่งเองหรือให้แอดมิน ChatStick ส่งให้- แจกได้ทุกแฟลตฟอร์ม ที่สำคัญเราออกใบกำกับภาษีให้ได้ เพียงใช้บริการของเรา ไม่ว่าองค์กรเล็ก หรือใหญ่ เราทำได้ ใช้เงินน้อย ได้ดั่งใจ การันตีเหมาะกับทุกองค์กร ทุกแคมเปญhttps://www.chatstickmarket.com/single-post/giveawayfreestickers-withwhatiseventstickers
#3636


ภาคอีสาน / ระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะได้เดินทางมาที่จังหวัดอุดรธานีและขอนแก่น เพื่อเยี่ยมเยียนกลุ่มเกษตรกร และติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามโครงการ 'บ้านมั่นคง' และการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยตั้งเป้าภายในปี 2579 จะแก้ปัญหาให้คนจนทั่วประเทศมีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง 1.3 ล้านหลัง

โดยในวันที่ 17 มิถุนายน นายจุรินทร์ได้เดินทางมาที่อำเภอกุมภวาปี จ.อุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคงที่ชุมชนบ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูน ตำบลพันดอน อ.กุมภวาปี ซึ่งมีการจัดงาน "บ้านมั่นคงพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างเศรษฐกิจชุมชน" และเป็นประธานในพิธีมอบบ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูนที่สร้างเสร็จแล้วจำนวน 37 จากทั้งหมด 107 หลัง โดยมีนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายปฏิภาณ จุมผา รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และพี่น้องประชาชนให้การต้อนรับ


ตั้งเป้าแก้ปัญหาที่ดินที่อยู่อาศัยคนจน 1.3 ล้านหลังภายในปี 2579

นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการบ้านมั่นคงเป็นงานที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย ในปี 2543 ซึ่งในขณะนั้นตนเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบโครงการ โดยมีเป้าหมายให้คนจนหรือคนที่ไม่มีบ้านอยู่อาศัยหรือมีแต่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ได้มีโอกาสมีบ้านอยู่ มีที่ดินเป็นของตนเอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โครงการบ้านมั่นคงจึงก่อกำเนิดขึ้นภายใต้หลักการที่มีองค์กรขึ้นมาบริหารจัดการเป็นการเฉพาะ โดยรัฐบาลช่วยหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยให้ประชาชนที่ไร้บ้านไร้ที่ดินรวมตัวกันเป็นสหกรณ์ และใช้เงินของสหกรณ์เช่าซื้อหรือซื้อที่ดิน เพื่อสร้างบ้านราคาพิเศษให้สมาชิก โดยสมาชิกผ่อนชำระเพื่อจะได้มีบ้านและที่ดินเป็นของตนเอง

นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 จนถึงปัจจุบัน สร้างบ้านเสร็จแล้วประมาณ 200,000 หลัง แต่ขณะนี้ได้มีการกำหนดเป้าหมายใหม่ เพื่อเร่งรัดดำเนินการภายใน 15 ปี โดยภายในปี 2579 จะต้องสร้างบ้านให้ได้ 1,300,000 หลัง เพื่อให้คนจนได้มีที่ดินทำกินและมีบ้านอยู่อาศัยเป็นของตนเอง นอกจากนี้ยังมีโครงการบ้านพอเพียงชนบท ซึ่งเป็นโครงการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณผ่านทางสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ 'พอช.'
"จังหวัดอุดรธานีได้ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงทั้งหมด 18 โครงการ สร้างบ้านเสร็จแล้ว 1,700 หลัง วันนี้มาทำหน้าที่มอบบ้านมั่นคงที่สร้างเสร็จแล้ว 37 หลัง และมอบเงินสร้างบ้านเพิ่มอีก 70 หลัง ช่วยให้พี่น้องมีบ้านรวม 107 หลัง และมอบเงินช่วยซ่อมแซมบ้านพอเพียงอีก 104 หลัง เป็นเงิน 2 ล้านบาท มอบเงินสวัสดิการชุมชนเพื่อช่วยสมาชิก 7,500 คนอีก 2 ล้านบาท มอบงบพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนเรื่องผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด 5 แสนบาท และมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดอีก 300 ครัวเรือน" นายจุรินทร์กล่าว

ทั้งนี้ที่ผ่านมา รัฐบาลมีแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) โดยมีเป้าหมายผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ประมาณ 3 ล้านครัวเรือน โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ดำเนินการ โดยมีวิสัยทัศน์ว่า "คนไทยทุกคนจะมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่ว และมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579" แยกเป็น 1.การเคหะแห่งชาติดำเนินการในรูปแบบการเช่าหรือเช่าซื้อประมาณ 2 ล้านครัวเรือน 2.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบท รวมทั้งกลุ่มคนไร้บ้าน ตามโครงการบ้านมั่นคงเมืองและชนบท การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว-คลองเปรมประชากร บ้านพอเพียงชนบท (ซ่อมสร้างบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน สภาพทรุดโทรม) ฯลฯ รวม 1,050,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ

บ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูนแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย 5 ชุมชน

โครงการบ้านมั่นคงทรัพย์เพิ่มพูน เกิดจากการรวมกลุ่มของชาวบ้าน 5 ชุมชนในเขตเทศบาลตำบลพันดอน อำเภอกุมภวาปีที่มีปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยและมีฐานะยากจน โดยชาวบ้านเริ่มรวมกลุ่มกันตั้งแต่ปี 2557 จัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อเป็นทุนในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินงาน ช่วยกันสำรวจข้อมูล พบว่า มีผู้เดือดร้อนจำนวน 732 ราย จาก 5 ชุมชน แบ่งเป็น กลุ่มบุกรุกที่ดินเอกชน 29 ครัวเรือน กลุ่มเช่าที่ดินราชพัสดุสร้างบ้าน 15 ครัวเรือน กลุ่มบ้านเช่า 16 ครัวเรือน และกลุ่มครอบครัวขยาย รวม 107 ครัวเรือน

ต่อมาในปี 2559 ได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์เคหสถาน ใช้ชื่อว่า 'สหกรณ์เคหสถานทรัพย์เพิ่มพูน จำกัด' เพื่อเตรียมจัดทำโครงการบ้านมั่นคง มีชาวบ้านที่มีความเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยเข้าเป็นสมาชิกจำนวน 107 ครัวเรือน และต่อมาได้รับการสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ หรือ 'พอช.' จัดทำโครงการบ้านมั่นคง


โดยสหกรณ์ฯ ขอใช้สินเชื่อจาก พอช. เพื่อซื้อที่ดิน เนื้อที่ 4 ไร่ 2 งานเศษ และปลูกสร้างบ้านใหม่ รวม 107 หลัง โดย พอช.สนับสนุน 1.สินเชื่อเพื่อซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้าน รวม 24 ล้านบาทเศษ 2.อุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย พัฒนาด้านสาธารณูปโภค และงบบริหารจัดการชุมชน รวม 8.5 ล้านบาทเศษ

ส่วนแบบบ้านมี 2 แบบ คือ 1.บ้านแถวชั้นเดียว ขนาด 10 และ 16.5 ตารางวา ราคาก่อสร้างหลังละ 181,312 บาท ผ่อนชำระเดือนละ 2,055 บาท จำนวน 30 หลัง และ 2. บ้านแถวสองชั้น ขนาด 11 ตารางวา ราคาก่อสร้างหลังละ 277,137 บาท ผ่อนชำระเดือนละ 2,155 บาท จำนวน 76 หลัง (ผ่อน 15 ปี) เริ่มก่อสร้างบ้านในเดือนธันวาคม 2562 ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวน 37 หลัง อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 70 หลัง ตามแผนงานจะก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปีนี้

รองนายกฯ ยกเสาเอกบ้านมั่นคงแก่นนคร จ.ขอนแก่น

นอกจากภารกิจที่จังหวัดอุดรธานีแล้ว ในวันนี้ (18 มิถุนายน) นายจุรินทร์ รองนายกรัฐมนตรี และคณะได้เดินทางมาที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อร่วมพิธียกเสาเอกสร้างบ้านมั่นคงสหกรณ์เคหสถานแก่นนคร จำกัด อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อก่อสร้างบ้านมั่นคงเฟสสุดท้าย จำนวน 46 หลัง โดยก่อนหน้านี้สร้างบ้านเสร็จไปแล้วจำนวน 287 หลัง ทำให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านและที่อยู่อาศัยที่มั่นคง รวม 333 ครัวเรือน

นายปฏิภาณ จุมผา รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ กล่าวว่า พอช. เป็นองค์กรในการกำกับดูแลโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2546 เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย สร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนคนจนในเมือง ครอบคลุมทั้งมิติด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม และความเข้มแข็งของชุมชน

"พอช.มียุทธศาสตร์การดำเนินงาน โดยส่งเสริมให้ชุมชนและเครือข่ายเป็น 'เจ้าของโครงการ' ทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคีที่เกี่ยวข้อง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและท้องถิ่น ตั้งแต่กระบวนการรวมกลุ่ม การจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ การหาที่ดินรองรับ การออกแบบบ้านและผังชุมชน รวมถึงการบริหารจัดการโครงการ และการบริหารการเงินด้วยระบบกลุ่มออมทรัพย์และสหกรณ์ โดยมีหน่วยงานท้องถิ่นทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินการ" รอง ผอ.พอช.กล่าวถึงกระบวนการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านมั่นคง

รอง ผอ.พอช.กล่าวว่า พอช.จะสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค และสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งรูปแบบในการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงมีความหลากหลายตามสภาพปัญหาและความต้องการของชุมชน เช่น การปรับปรุงที่อยู่อาศัยในที่ดินเดิม การรื้อย้ายสร้างชุมชนใหม่ การแบ่งปันที่ดินสร้างชุมชนใหม่ ฯลฯ โดยขณะนี้ พอช.ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว 19 จังหวัด 84 เมือง 537 ชุมชน รวม 28,912 ครัวเรือน

"เฉพาะจังหวัดขอนแก่น พอช.ได้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการบ้านมั่นคง รวม 75 โครงการ 163 ชุมชน จำนวน 7,057 ครัวเรือน และดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้ครัวเรือนยากจน กลุ่มคนเปราะบางที่มีปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยตามโครงการบ้านพอเพียงชนบท ตั้งแต่ปี 2560 ถึงปัจจุบัน จำนวน 831ครัวเรือน ใน 81 ตำบล รวมทั้งเกิดการประสานความร่วมมือกับภาคีพัฒนามากกว่า 10 องค์กร" รอง ผอ. พอช.กล่าว

 
#3637
สร้างรายได้จากสติกเกอร์ไลน์ง่ายๆ ด้วยโปรแกรม MediBang Painthttps://www.chatstickmarket.com/single-post/makemoneyfromlinestickerseasilywithmedibangpaintprogram

#3638
 
น้ำมันว่านเครือเขาหลง ใส่ตะกรุดนะมหานิยม ทุกขวด
สายพุทธคุณ คุณพระ คุณว่าน ไม่เข้าตัว ไม่มีข้อห้าม ใช้ด้วยศรัทธา สำเร็จทุกราย


 
เครือเขาหลงจัดอยู่ในของขลังธรรมชาติ เป็นของเสน่ห์ ของเสน่ห์แรงๆ หมอเสน่ห์เขมร หมอเสน่ห์ไทยนิยมใช้กันมาก และจัดได้ว่าเป็นของเสน่ห์ที่แรงที่สุด
 
คุณของน้ำมัน
เพิ่มเสน่ห์ เพิ่มเมตตา นำพาโชคลาภ เรียกจิต เรียกใจ ประสานสัมพันธ์ ค้าขายร่ำรวย
 
คาถามหาหลง
โอม หลง หลง มหาหลง สารพัดที่จะหลง หลงทั้งต้น หลงทั้งกิ่ง หลงทั้งก้าน หลงทั้งราก หลงทั้งใบ หลงทั้งดอก คนเห็นน้ำตาตก นกเห็นน้ำตาไหล ไผผู้ใดเห็นหน้ากู อยู่มิได้ร้องไห้หากู หลงทั้งหน้า หลงทั้งหลัง หลงทั้งซ้าย หลงทั้งขวา หลงทั้งต่ำ หลงทั้งสูง หลงทั้งกลางวัน หลงทั้งกลางคืน หลงทั้ง


 
วิธีใช้
เพิ่มเสน่ห์ เมตตา โชคลาภ ค้าขาย ประสานสัมพันธ์ สวดคาถาแล้วนำน้ำมันว่านแตะที่หน้าผาก นึกถึงสิ่งที่ต้องการด้วยใจมุ่งมั่น แน่วแน่ศรัทธา เป็นไปดังว่า สมปรารถนา
 
เรียกจิต เรียกใจ ให้ท่องคาถา ใช้แต้มแตะทา ลงบนวัตถุ รูปภาพหามา ของคนต้องการ เพ่งพลังจิต ลงไปแน่วแน่ ให้เกิดเป็นภาพ เคียงคู่กายา ทำได้ดังนี้นั้นหนา บอกคำว่า ได้ตามนั้นเลย
สนใจติดต่อโทร. 0846623662
id line : teerapat999

แฟนเพจ https://web.facebook.com/porntaywa
เวปไซด์ http://porntaywa99.lnwshop.com/p/12

lazada  https://www.lazada.co.th/products/-i1863368460-s5737984707.html?spm=a2o4m.seller.list.19.751ebb9eN8X8vA&mp=1&freeshipping=1  
#3639
การดูแลสุขภาพอนามัยเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก  ยิ่งในยุคปัจจุบันการมีบุคลิกภาพที่ดีมักจะนำมาซึ่งโอกาสที่ดีกว่าเสมอ บุคลิกภายนอกจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นปราการด่านแรกที่จำทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใด ทำงานลักษณะไหน เชื่อว่าล้วนแต่ต้องการมีบุคลิกภาพที่ดี แลดูสะอาดชวนมองด้วยกันทั้งนั้น  ชุดมีดโกนหนวดอเนกประสงค์พร้อมใบมีด36ใบมีด จึงเหมาะที่คุณจะเลือกมาเป็นตัวช่วยให้ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงได้มีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่ใช้งานง่าย  สะอาด สะดวกรวดเร็วและรับรองในความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดด!!
สั่งซื้อ https://razor69.lnwshop.com
#3640


นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ทางสมาคมฯได้ทำการสำรวจและทำแบบสอบถามไปยังกลุ่มตัวอย่างผู้บริโภคจำนวนกว่า 400 ราย พบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านมากถึง 72% ส่วนที่เหลือ 28% ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้าน ข้อมูลดังกล่าวคาดว่าเป็นกลุ่มบ้านราคาแพงซึ่งตลาดยังพอไปได้ต่างจากบ้านขนาดเล็กหรือตลาดทั่วไป ระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลต่อการตัดสินใจปลูกสร้างบ้านมาก ด้วยเหตุนี้อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านที่เดิมเน้นตลาดทั่วไป ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ได้ขยับมาจับตลาดบ้านราคาแพงตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป


เมื่อถามว่าต้องการจะปลูกสร้างบ้านพร้อมเข้าอยู่ใช้เวลาในการปลูกสร้างกี่ปีนั้น พบว่าพร้อมปลูกสร้างไม่เกิน 6 เดือนคิดเป็นสัดส่วน 24% และใช้เวลามากกว่า 6 เดือนถึง 2 ปีคิดเป็นสัดส่วน 65% และ ใช้เวลา 2-3 ปี คิดเป็นสัดส่วน 11% ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ต้องการสร้างบ้านส่วนใหญ่ จะไปสร้างบ้านในปี 2565- 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 น่าจะคลี่คลาย ส่วนทำเลที่เลือกปลูกสร้างบ้านนั้น 3 ทำเลที่ต้องการปลูกสร้างมากสุดคือ อันดับหนึ่งยังเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร/ปริมณฑลคิดเป็นสัดส่วน 37% อันดับสองและอันดับสามคือ ภาคกลาง และภาคใต้ คิดเป็นสัดส่วน 18% จากสัดส่วนนี้แสดงให้เห็นว่าความต้องการของลูกค้ากลุ่มรับสร้างบ้านกว่า 55% ยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล รวมถึงภาคกลาง

พร้อมกันนี้จากแบบสอบถามที่ได้จากกลุ่มผู้บริโภคที่ยังตัดสินใจในการปลูกสร้างบ้านกับบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ถึง 84.2% นั้นสะท้อนภาพได้ว่าผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่น ดังนั้นทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ได้ตัดสินใจเลื่อนการจัดงาน "รับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2021" จากเดิมจะจัดในเดือนสิงหาคม ไปเป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564

แต่เพื่อเป็นการช่วยเหลือสมาชิกสมาคมฯ จึงได้จัดงาน งานรับสร้างบ้าน Online 2021 ในรูปแบบ Virtual Online Exhibition เน้นสร้าง Data Base ผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านกลุ่มใหม่ ๆ ได้มากขึ้นโดยจะกำหนดการจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 27 ส.ค. - 6 ก.ย.2564 นี้ ขึ้นมาก่อน ซึ่งคาดหวังว่ากิจกรรมที่จัดขึ้นนี้จะกระตุ้นการตลาดและการขายก่อนการจัดงานในช่วงปลายปี ขณะเดียวกันผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ง่าย สะดวกต่อการเข้าชม ป้องกันการระบาดของโรคระบาด โดยเฉพาะโควิด-19 อีกทั้งยังสร้างมิติใหม่ช่วยให้ภาพลักษณ์ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านมีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้านต่างจังหวัด จะมีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับสมาคมฯ ได้มากขึ้นเช่นกัน